xs
xsm
sm
md
lg

สุดเศร้าลูกโลมากระโดดหางพันเชือกทุ่นผูกเรือตายที่เกาะพีพี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สุดเศร้า ลูกโลมาเพศผู้ หางพันเชือกทุ่นผูกเรือจมน้ำตายที่อ่าวโล๊ะดาลัม เกาะพีพี หลังเจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายาก เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน เคยช่วยเหลือปล่อยกลับทะเลขณะที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่หน้าหาดกะรน จ.ภูเก็ต เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ก่อนตายกลายเป็นขวัญใจนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำอ่าวโล๊ะดาลัม
ลูกโลมากระโดดขณะยังมีชีวิตอยู่เล่นน้ำกับนักท่องเที่ยวที่อ่าวโล๊ะดาลัม หรืออ่าวลิง เกาะพีพีดอน จ.กระบี่ หลังจากเจ้าหน้าที่เคยช่วยเหลือปล่อยกลับทะเลที่ภูเก็ต
เมื่อเวลาประมาณ. 17.00 น.วันนี้ (17 ธ.ค.) ที่ท่าเทียบเรือรัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางมารับซากลูกโลมาจากเรือบรรทุกนักท่องเที่ยวพีพีครุยเซอร์ จากเกาะพีพี หลังเจ้าหน้าที่พบลูกโลมาตัวดังกล่าวถูกเชือกทุ่นผูกเรือรัดที่โคนหางจมน้ำตาย ขณะว่ายน้ำเล่นอยู่บริเวณหน้าอ่าวโล๊ะดาลัม หรืออ่าวลิง เกาะพีพีดอน จ.กระบี่ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (17 ธ.ค.) เพื่อนำมาผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายของลูกโลมาตัวดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกโลมาตัวดังกล่าว เป็นโลมาเพศผู้ ความยาว 1.2 เมตร น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม อายุประมาณ 1-2 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า เป็นลูกโลมาที่เคยถูกคลื่นซัดเข้ามาเกยตื้นที่บริเวณอ่าวกะรน เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีรอยบาดแผล และรอยตำหนิเหมือนกัน โดยการเข้ามาเกยตื้นในครั้งนั้น โลมามีสภาพร่างกายที่อ่อนเพลีย ทางเจ้าหน้าที่ประจำกลุ่มสัตว์ทะเลหายากฯ ได้นำมาอนุบาล และให้ยาบำรุง รวมทั้งให้ยาปฏิชีวนะ และนำไปปล่อยกลับทะเลในวันเดียวกันที่บริเวณทะเลทางตอนใต้ของหาดกะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ลูกโลมากระโดดขณะยังมีชีวิต
ซึ่งหลังปล่อยลูกโลมากลับสู่ทะเล ทางเจ้าหน้าที่ และเครือข่ายได้มีการเฝ้าติดตามตลอดจนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งพบลูกโลมาบริเวณอ่าวลิง หรืออ่าวโล๊ะดาลัม เกาะพีพีดอน จ.กระบี่ ซึ่งหากจากจุดปล่อยเดิม 50 กิโลเมตร และเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ น.ส.พัชราภรณ์ แก้วโม่ง สัตวแพทย์ นายเผ่าเทพ เชิดสุขใจ นักวิชาการประมง นายสมนึก เจ้าหน้าที่ประมงชำนาญการ รศ.สพญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Mr.Mark TrimmOcean Embassy USA, Dr.Chris Torno, Resorts World Sentosa, Philiipines ได้ร่วมศึกษา สังเกตการณ์ และวางแนวทางการดูแลและคุ้มครองลูกโลมากระโดดพลัดหลงจากฝูงดังกล่าว

โดยทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า จากการสังเกตลักษณะอาการของลูกโลมาพบว่า การสมานของรอยแผล ความอ้วนของโลมา ลักษณะของผิวหนัง ความใสของนัยน์ตา ลักษณะการหายใจ การดำน้ำ ความกระตือรือร้นของโลมาอยู่ในเกณฑ์ดี และมีแนวโน้มการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น สุขภาพของโลมาที่ดีขึ้น และโลมาสามารถหาอาหารได้เอง และมีการเรียนรู้ในการสร้างความคุ้นเคยกับคน โดยโลมาจะว่ายน้ำเข้าหาคนที่เข้าไปในเขตที่มันอยู่อาศัย ซึ่งสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ลูกโลมาที่ยังมีชีวิตอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็มีความกังวลในเรื่องของปริมาณอาหารในพื้นที่อาจไม่เพียงพอในระยะยาว ซึ่งมีการวางแผนในการจัดทำซั้งปลา (Fish aggregator) เพื่อล่อให้เกิดการรวมกลุ่มของปลาที่เป็นอาหารของโลมาในบริเวณดังกล่าวขึ้นมา นอกจากนั้น เพื่อช่วยกันดูแลและป้องกันไม่ให้โลมาดังกล่าวถูกรบกวน และได้รับอันตรายจากคน ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดทำแนวป้องกันคนในบริเวณที่โลมาอยู่อาศัยแล้ว และมีแผนที่จะทำแนวกันเรือ และเขตควบคุมความเร็วด้วยเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดจากการใช้เรือ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่วันนี้ (17 ธ.ค.) ลูกโลมาตัวดังกล่าวต้องมาจบชีวิตลงเนื่องจากหางของลูกโลมาไปพันกับเชือกที่ใช้สำหรับผูกทุ่นจอดเรือทำเชือกรัดจนจมน้ำตาย ทั้งๆ ที่ลูกโลมากำลังมีอาการดีขึ้น และมีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง
เจ้าหน้าที่ขนซากลูกโลมากลับภูเก็ตหลังว่ายน้ำเล่นหางไปติดกับเชือกผูกเรือจมน้ำตาย

กำลังโหลดความคิดเห็น