พบหัวกระสุนยิงช้างแก่งกระจานแล้ว หลังแพทย์ลงพื้นที่พลิกซากหาหลักฐาน

เพชรบุรี - ตร.ร่วมสัตวแพทย์ ลงพื้นที่ขุดซากช้างแก่งกระจานพลิกหาหลักฐาน ฟันธงถูกยิง 2 นัด ก่อนล้มเสียชีวิต โดยพบหัวกระสุนปืนอาก้าขนาดหัวกระสุน 7.62 มล.ติดอยู่บริเวณทรวงอกด้านซ้าย และบริเวณเหนือกกหูซ้าย จนเป็นรอยขนาดใหญ่ขนาดรูกระสุนกว้าง 2x9 ซม.ชี้ มีการยิงจากใบหน้าไปด้านหลัง ขณะเดียวกัน ด้านซ้ายปลายงวงมีรูกระสุนเข้า และกระสุนออกอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกันนี้ จนท.ตร.ได้มีการนำภาพของผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ร่วมกระบวนการยิงช้างป่าแก่งกระจานออกมาเผยแพร่ด้วย

วันนี้ (20 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.จรัมพร พิสุทธิวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมด้วย รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ สัตวแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์ พ.ต.อ.ดิเรก ธนานนท์นิวาส นวท.(สบ4) หัวหน้ากลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 พ.ต.อ.ฐิติพงศ์ เศรษฐีสมบัติ รองผบก.ศพฐ.7 พ.ต.อ.สมภพ เองสมบุญ นักวิชาการ (สบ4) กลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 เจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดเพชรบุรี กลุ่มงานตรวจสอบที่เกิดเหตุกลุ่มงานตรวจกระสุน และเจ้าหน้าที่สว่างสรรเพชญธรรมสถานจุดแก่งกระจาน รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่ร่วมลงพื้นที่บริเวณห้วยแห้ง หมู่ 6 ต.ป่าเด็งอ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ซึ่งเป็นจุดที่พบซากช้างพลายเพศผู้ถูกฆ่าตัดงวงและอวัยวะเพศอย่างน่าเวทนา โดยวันนี้ได้ทำการขุดเอาซากช้างทั้งตัวขึ้นมาเพื่อตรวจพิสูจน์วิเคราะห์วิถีกระสุน โดยมีการเลาะฝ่าเท้าทั้ง 4 เท้าของช้าง ชิ้นเนื้อ และตรวจหาร่องรอยวิถีกระสุนที่พบว่าช้างถูกยิงเข้าบริเวณเหนือกกหูซ้ายจนเป็นรอยขนาดใหญ่ อีกทั้งซ้ายปลายงวงมีรูกระสุน และมีรูกระสุนออกอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกันนี้ ได้มีการนำเครื่องสแกนหาวัตถุเข้ามาร่วมในการค้นหาด้วย รวมถึงมีการตัดชิ้นเนื้อเพื่อตรวจหา DNA ของช้าง โดยการค้นหาเจ้าหน้าที่ต้องทำการล้างหัวกะโหลกช้างเพื่อหาร่องรอยการถูกยิง ซึ่งพบว่ามีขนาดกะโหลกยาว 80 ซม.ขนาดรูกระสุนกว้าง 2x9 ซม.รอยถากของกระสุนยาว 9 ซม.โดยพบว่ามีการยิงจากใบหน้าไปด้านหลัง ซ้ายปลายงวงมีรูยิงเข้ากว้าง 36 ซม.และรอยกระสุนออกกว้าง 31 ซม.

รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ สัตวแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า สำหรับในวันนี้มาร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ของตำรวจ ต้องมาทำการพิสูจน์ ว่า ช้างตัวนี้น่าจะมีความสูง และมีน้ำหนักเท่าไหร่ และหาร่องรอยกระสุนและรอยที่ถูกทำร้ายที่ยังพบในซากขณะนี้น่าจะมีอะไรได้บ้าง และอะไรที่เป็นสาเหตุการตายที่สำคัญที่สุดของช้างตัวนี้ เบื้องต้นทำการวัดส่วนสูง วัดน้ำหนัก โดยประเมินน้ำหนักจากเท้าของช้างแล้วก็จะมีการวัดอายุ การดูจากฟันโดยมีการเอกซเรย์ร่วมกับแพทย์นิติเวชของคนที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องของแผลรอยกระสุนต่างๆ และมีการเอกซเรย์เกี่ยวกับเรื่องของกระดูก โดยทั่วไปแล้วช้างจะต้องการใช้กระสุนขนาดใหญ่ในการฆ่าและยิงซ้ำถึงจะเสียชีวิต

ด้าน พล.ต.ท.จรัมพร พิสุทธิวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เปิดเผยว่า จากวันนั้นที่มาขุดเจอรอยยิงด้านหลัง ด้านหน้า โดยมีลักษณะการยิงกะโหลกด้านซ้าย โดยมีการคุยกับแพทย์นิติเวช เป็นการยิงถากเข้าไปบริเวณด้านหลัง เพราะฉะนั้นวิถีกระสุนจากตัวนี้กับวิถีกระสุนที่ได้รับจากการบอกเล่าจากพยาน เราต้องประเมินดู ซึ่งขณะนี้ต้องหาวิธีกระสุนที่แท้จริง ช้างเป็นสัตว์ใหญ่อาจจะมีรอยกระสุนยิง ซึ่งวันนี้ได้มีการนำเครื่องเอกซเรย์มาเอกซเรย์ตามจุดสำคัญ เพื่อประเมินให้ครบถ้วนอีกทั้งมีการประเมินเหตุการณ์โดยจะมีการนำหัวกะโหลกตั้งในระดับความสูงของช้างซึ่งตามที่พยานบอกว่ามีการยิงมาจากทิศทางต้นไม้ ซึ่งอาจเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม จะพยายามหาหลักฐานที่พบในตัวช้างให้ได้มากที่สุด

นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำภาพของผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นผู้ร่วมกระบวนการยิงช้างป่าแก่งกระจานออกมาเผยแพร่ด้วยการค้นหาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อเวลา 15.20 น.ได้พบหัวกระสุนปืนอาก้าขนาดหัวกระสุน 7.62 มิลลิเมตร ติดอยู่บริเวณทรวงอกด้านซ้าย

โดย รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ สัตวแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า จุดที่พบหัวกระสุนอยู่บริเวณทรวงอกด้านซ้ายโดยกระสุนทะลุปอดของช้าง อีกทั้งสามารถฟันธงได้เลยว่าช้างถูกยิง 2 นัด ก่อนที่จะล้มและเสียชีวิตในที่สุดโดยหัวกระสุนที่ได้จะนำส่งตรวจยังกองพิสูจน์หลักฐาน 7 เพื่อตรวจเปรียบหัวกระสุนต่อไป