xs
xsm
sm
md
lg

มทภ.4 เดินเท้าเข้าชุมชนใช้มัสยิด 300 ปีเป็นสักขีพยานสร้างจิตสำนึกให้ประชาชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นราธิวาส - แม่ทัพภาค 4 เดินเท้าเข้าชุมชน สร้างจิตสำนึกให้ชาวบ้านวางอาวุธทางความคิด หันมาสร้างภาคใต้ให้ร่มเย็น โดยใช้มัสยิด 300 ปี ที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นสักขีพยาน

วันนี้ (16 ธ.ค.) พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 และคณะ ได้เดินทางไปยังมัสยิดวาดีลฮูเซ็น หรือมัสยิด 300 ปี ซึ่งตั้งอยู่บ้านตะโล๊ะมาเนาะ ต.ลูโบ๊ะสาวอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส โดยมี น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ นายอำเภอ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 7 หมู่บ้านของ ต.ลูโบ๊ะสาวอ จำนวนกว่า 500 คน คอยให้การต้อนรับ เพื่อเป็นประธานในพิธีโครงการเดินเท้าเข้าสู่ชุมชน ที่ทาง น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ จัดขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าถึง และนั่งอยู่ในใจของประชาชนอย่างแท้จริง รวมทั้งสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ในทุกๆ ด้าน อันเกี่ยวเนื่องมาจากผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น

ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ ทางหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน ได้นำเจ้าหน้าที่ออกให้บริการแก่ประชาชน ทั้งการตัดผม มอบแว่นสายตาให้แก่คนชรา มอบรถเข็นให้แก่ผู้พิการ มอบเครื่องอุปโภคบริโภคให้แก่คนยากจน และด้อยโอกาส รวมทั้งนำช่างออกให้บริการซ่อมรถจักรยานยนต์ เนื่องจากหมู่บ้านบริวารทั้ง 7 หมู่บ้านที่มัสยิด 300 ปี เป็นจุดศูนย์กลาง อยู่ในโซนพื้นที่สีแดง ประชาชนไม่กล้าที่จะเดินทางไปทำกิจธุระในยามวิกาล เกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน

โดยทาง พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 ได้อาศัยจังหวะช่วงมอบสิ่งของต่างๆ แก่ประชาชน พูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านอย่างใกล้ชิดผ่านล่าม ในเรื่องขอความร่วมมือให้ชาวบ้านวางอาวุธทางความคิด

ซึ่งอาจจะได้รับเรื่อง หรือข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง แล้วนำไปคิดจนมีความโกธร และเกลียดเจ้าหน้าที่ทั้งๆ ที่ไม่เป็นความจริง ที่นำพาไปสู่ความเหินห่าง และการต่อต้านตามมา จากการปล่อยกระแสข่าวลือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี และเมื่อเจ้าหน้าที่กับชาวบ้านต่างรู้ถึงความบกพร่องของแต่ละฝ่ายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ควรให้อภัยซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งได้หันกลับมาให้ความร่วมมือกับทางการ สร้างพื้นที่ภาคใต้ให้มีความสงบสุข และร่มเย็นแบบยั่งยืน เพราะเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างมีจุดยืน และเป้าหมายเดียวกันกับชาวบ้าน ที่ต้องการให้ความสันติสุขคืนกลับมาโดยเร็ว แต่อุปสรรคสำคัญที่เป็นช่องว่างระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือ ความไว้วางใจซึ่งกันและกันยังไม่มีการหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน

ตนจึงมีความจำเป็นต้องมานั่งอยู่ในหัวใจของชาวบ้านให้จงได้ และเชื่อว่า มัสยิดศักดิ์สิทธิ์ 300 ปี แห่งนี้ เป็นสักขีพยานระหว่างตนกับชาวบ้าน จะเดินเคียงคู่กันในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบให้บังเกิดขึ้นโดยเร็ว

ด้าน น.อ.สมเกียรติ ผบ.ฉก.นย.ภาคใต้ ได้กล่าวในระหว่างพบปะกับชาวบ้านว่า เมื่อ 2167 หรือ 389 ปีก่อน ท่านอัลนิลอุรมาล ท่านวัลฮุนเซ็น สะนาวี ท่านได้เดินทางจากเหนือมาที่นี่ เพื่อสร้างมัสยิดตะโล๊ะมาเนาะแห่งนี้ แล้วสมัยนั้นผมเชื่อว่ามีความร่มเย็น เพราะฉะนั้น ถ้าหากว่าทุกที่ในดินแดนใต้จะกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง ขอให้เริ่มต้นจากมัสยิด 300 ปี แห่งจิตวิญญาณแห่งนี้

ส่วน พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาค 4 ได้กล่าวในระหว่างพบปะกับชาวบ้านเช่นเดียวกันว่า ที่อยู่กันได้อย่างสันติสุขนั้น ผมคิดว่ามีสิ่งสำคัญตามหลักศาสนาอยู่ ก็คือการให้อภัยซึ่งกันและกันเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องที่มนุษย์ต้องอดกลั้นความโกรธความโลภทุกอย่าง เพื่อให้อภัยแก่ตัวเอง และคนอื่น ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ เห็นได้ว่าชาวบ้านทุกคนมีสีหน้าที่เบิกบาน แถมมีแววตาที่สดใส ซึ่งแสดงออกถึงความสุขที่ไม่เคยมีมาก่อน จากการตอบรับการจัดงานของเจ้าหน้าที่ และเชื่อว่า อีกไม่นานเกินรอชาวบ้าน 7 หมู่บ้าน ซึ่งอาศัยอยู่รายรอบบริเวณมัสยิด 300 ปี ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จะมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี
กำลังโหลดความคิดเห็น