เจ้าของคิวรถตู้ตรัง-สุราษฎร์ฯ พาลูกชายแจ้งความถูกรุมฆ่า

ตรัง - เจ้าของคิวรถตู้ตรัง-สุราษฎร์ฯ พาลูกชายวัย 18 ปี พร้อมภาพกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความมัดตัวเพื่อนสาว และอดีตแฟนสาวที่พาพวกบุกรุมตบตี และยิงใส่ 4 นัด แต่โชคดีที่ปืนด้านเนื่องจากปาฏิหาริย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของ 2 พระเครื่องที่ตนแขวนติดตัวไว้ตลอดเวลา

วันนี้ (13 ธ.ค.) เมื่อเวลา 06.30 น. นางดวงแข รักพงษ์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 398 ม.5 ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง เจ้าของคิวรถตู้โดยสารสายตรัง-สุราษฎร์ธานี นำนายกลาง (นามสมมติ) อายุ 18 ปี บุตรชาย ซึ่งเป็นพนักงานฝ่ายสิ่งแวดล้อม บริษัท ศรีตรังแอรโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) สาขาตรัง พร้อมหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงที่เข้าไปก่อเหตุทำร้ายร่างกาย และใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นจ่อยิงบุตรชายที่หอพักพิมใจ 2 ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง เมื่อเวลา 01.45 น. ในวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา แต่โชคดีที่กระสุนปืนไม่ลั่น จึงเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.โกเมน สุวรรณชาตรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง เพื่อใช้เป็นหลักฐานดำเนินคดีกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว

นายกลางให้การว่า ในคืนวันก่อนเกิดเหตุ ตนพร้อมแฟนสาวได้ออกไปหางานพิเศษทำ โดยเป็นเด็กรับฝากรถภายในงานเฉลิมพระชนมพรรษา และงานกาชาด ซึ่งจัดขึ้นที่สนามกีฬาทุ่งแจ้ง ถ.ตรัง-สิเกา ต.บางรัก อ.เมือง จ.ตรัง ระหว่างวันที่ 5-15 ธ.ค. หลังจากนั้น ได้กลับหอพักกับแฟนสาว ก็มีกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงนับ 10 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา 6 คัน มาจอดหน้าหอพัก ด้วยความตกใจกลัวจึงรีบพาแฟนสาวกลับเข้าห้อง แต่ยังไม่ทันปิดประตูห้องหญิงสาววัยรุ่นที่มาด้วยกันกับกลุ่มวัยรุ่นทราบชื่อ น.ส.เบ๊นซ์ พร้อมเพื่อนสาว 8 คน ก็ได้ลงจากรถแล้วตรงปรี่เข้ามาข่มขู่ พร้อมกับตบตี และใช้รองเท้าส้นสูงทุบตีที่ศีรษะแฟนสาวจนได้รับบาดเจ็บ โดยมี น.ส.แนน อดีตแฟนเก่าของตนที่มาด้วยกันยืนมองอยู่ใกล้ๆ

ทั้งนี้ เมื่อตนพยายามเข้าไปห้ามปราม และช่วยแฟนสาวแต่กลับถูกเพื่อนอดีตแฟนเก่าใช้รองเท้าส้นสูงฟาดที่ศีรษะ ก่อนที่ น.ส.เบ๊นซ์ จะออกไปพูดคุยกับวัยรุ่นชายที่ข้างหน้า จากนั้นวัยรุ่นชายที่ใส่หมวกแก๊ปก็ได้ลงจากรถแล้วใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นจ่อยิงตน 3-4 นัด แต่กระสุนปืนด้าน

ส่วนสาเหตุที่อดีตแฟนสาวพาพวกบุกทำร้าย และใช้ปืนยิงตนนั้น คาดว่าน่าจะมาจากหลังเลิกรากันไปแล้ว และไม่พอใจที่ตนไปมีแฟนใหม่ และสาเหตุที่กระสุนปืนไม่ลั่นคิดว่าน่าจะมาจากปาฏิหาริย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของ 2 พระเครื่องที่ตนแขวนติดตัวไว้ตลอดเวลา ได้แก่ หลวงพ่อวัน มะนะโส แห่งวัดประสิทธิชัย (วัดท่าจีน) สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่ง จ.ตรัง และหลวงพ่อหนู แห่งวัดแจ้ง ต.บางรัก อ.เมืองตรัง จนทำให้ตนรอดพ้นจากคมกระสุนอย่างน่าอัศจรรย์

ด้านนางดวงแข รักพงษ์ มารดาของนายกลาง กล่าวว่า หลังจากลูกชายตนถูกรุมทำร้ายร่างกายเมื่อ 3-4 วันก่อนก็ไม่ให้ลูกไปทำงานพิเศษแล้ว เพราะเกรงว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวจะย้อนกลับมาทำร้ายอีก ดังนั้น จึงขอวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ หากเกิดเหตุร้ายขึ้นกับลูกตนคงเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะมีลูกเพียงคนเดียว

ขณะที่ ร.ต.อ.โกเมน สุวรรณชาตรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง ได้รับมอบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมทั้งสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเร่งลงพื้นที่ติดตามตัวผู้กระทำผิดต่อไป