จนท.สรรพสามิตหาดใหญ่ต้องใช้ภาษามือบริการ แข่งเสียงดังเต้นแอโรบิก

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกิดปัญหาโลกแตกขึ้นภายในศาลาประชาคม อ.หาดใหญ่ เนื่องจากผู้คนทะลักแห่ใช้สิทธิขอคืนภาษีรถยนต์คันแรกต้องขยายเวลาถึงกลางคืน ขณะที่อีกฝ่ายมีการเปิดเพลงเต้นแอโรบิกเพื่อออกกำลังกายเสียงดังสนั่น เจ้าหน้าที่ต้องใช้ภาษามือในการทำงาน เสี่ยงเกิดการกระทบกระทั่ง

วันนี้ (11 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดปัญหาโลกแตก และแปลกขึ้นภายในศาลาประชาคมภายในที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ และเสี่ยงที่จะเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่าง 2 ฝ่าย โดยเฉพาะในช่วงเย็นตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น.จนถึง 18.00 น. เนื่องจากมีการเข้าไปใช้สถานที่ของผู้คน 2 กลุ่มพร้อมๆ กัน โดยกลุ่มแรกเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สงขลา สาขาหาดใหญ่ ซึ่งเปิดใช้ศาลาประชาคมเป็นศูนย์บริการเฉพาะกิจ เพื่อให้บริการประชาชนที่มายื่นเรื่องใช้สิทธิขอคืนภาษีรถยนต์ใหม่คันแรก ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16กันยายน ปี 54 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคมปีนี้

ซึ่งมีประชาชนมาใช้บริการประมาณ 600 คนต่อวัน เนื่องจากที่ทำการของสำนักงานบนที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่คับแคบ ไม่สามารถให้บริการได้ทัน และเปิดให้บริการประชาชนต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงกลางคืนจนกว่าจะเสร็จ ซึ่งบางวันเปิดให้บริการถึง 3 ทุ่ม และมีจำนวนผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้นทุกวัน เพราะใกล้สิ้นสุดโครงการ

ส่วนอีกกลุ่มเป็นข้าราชการของที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ และประชาชนในพื้นที่รอบๆ ที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่ ที่มาใช้ศาลาประชาคมเป็นสถานที่เต้นแอโรบิกเพื่อออกกำลังกายอยู่เป็นประจำทุกวันเช่นกัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเปิดพื้นที่อยู่คนละฝั่ง

ซึ่งปัญหาจะเกิดขึ้นในช่วงเย็นของทุกวันตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. จนถึง 18.00 น. เนื่องจากในการเต้นแอโรบิกจะมีการเปิดเพลงเสียงดังกึกก้องไปทั้งอาคารศาลาประชาคม ส่วนเจ้าหน้าที่ของสรรพสามิตก็ต้องให้บริการประชาชนที่มานั่งรอ และต่อคิวยาวเหยียด ซึ่งเสียงเพลงที่ดังสนั่นได้กลบเสียงของเจ้าหน้าที่สรรพสามิตที่คอยเรียกผู้มาใช้บริการจนแทบไม่มีเสียง และต้องใช้ภาษามือในการให้บริการ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานนับปีไม่สามารถแก้ไขได้

เจ้าหน้าที่ของที่ว่าการอำเภอหาดใหญ่รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ในช่วงเวลา 2 ชั่วโมงที่ทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ร่วมกันภายในหอประชุมเป็นช่วงที่ค่อนข้างวุ่นวาย และเสี่ยงที่จะกระทบกระทั่งกันเพราะเจ้าหน้าที่สรรพสามิตก็ทำงานลำบาก ขณะที่กลุ่มผู้เต้นแอโรบิกก็ต้องมาใช้สถานที่ในการออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ ซึ่งเคยมีการขอร้องไม่ให้เปิดเสียงเพลง หรือออกไปเต้นที่อื่นทางผู้เต้นแอโรบิกก็ไม่ยอมเพราะอยู่มาก่อน

ส่วนเจ้าหน้าที่สรรพสามิตก็ต้องทนเพราะถือว่าแค่ใช้สถานที่ชั่วคราวใกล้หมดโครงการต้องทนต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา เนื่องจากทั้งสองฝ่ายก็ทำงานอยู่ในที่ว่าการอำเภอ จึงไม่อยากมีปัญหา แต่สงสารก็แต่ประชาชนที่บางคนอาจจะรำคาญในช่วงเวลาดังกล่าว