ยะลา - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวเหตุคนร้ายยิงร้านน้ำชาที่ตันหยงลิมอ ชาวบ้านดับ 3 เจ็บ 5 พบมีเด็กหญิง 11 เดือน เสียชีวิตด้วย ยันไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่ตามข่าวลือที่คนร้ายปล่อยข่าว
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่ศูนย์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับรถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นพาหนะ แล้วใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 อาก้า และเอชเค กราดยิงใส่เข้าไปในร้านน้ำชา ในขณะที่มีพี่น้องนั่งดื่มน้ำชาอยู่ภายในร้านประมาณ 15 คน เหตุเกิดที่บ้านบาดามูเวาะห์ ม.1 ต.ตังหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 07.26 น. วันนี้ (11 ธ.ค.)
เป็นเหตุให้ราษฎรเสียชีวิต จำนวน 3 ราย คือ นายซอบรี เลาะ อายุ 23 ปี ด.ญ.อินฟานี สาเมาะ อายุ 11 เดือน และ น.ส.นิสบะห์ มูซอ อายุ 25 ปี ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย คือ นายต่วนมา ตีงี อายุ 61 ปี นางสีตีรอหิมะ มามะ อายุ 70 ปี ด.ช.มูฮัมหมัดดัรวิสฮาถีมี แยนา อายุ 10 ปี นายปะเงาะ นิแม อายุ 79 ปี และนายฮามีซี เจ๊ะโด อายุ 23 ปี
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้บริสุทธิ์ซึ่งเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจากการกระทำอย่างโหดเหี้ยมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่มีความสุดโต่งทั้งแนวความคิด และการกระทำอย่างไรมนุษยธรรม รวมทั้งถือเป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนต่อพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างร้ายแรง ซึ่งสิ่งที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพยายามดำเนินการมาตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา คือ การข่มขู่ ขู่เข็ญ คุกคาม และทำร้ายพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ให้ตกอยู่ความหวาดกลัว และยอมจำนน
พร้อมทั้งได้สร้างสถานการณ์ความขัดแย้งให้เกิดความหวาดระแวงต่อกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชน หรือระหว่างประชาชนด้วยกันมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างสถานการณ์ทำร้ายพี่น้องประชาชน และปล่อยข่าวลือ หรือบิดเบือนให้สังคมเข้าใจผิด และมีความเชื่อว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ในประเด็นดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอเรียนให้ทราบว่า ตลอดห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาได้ใช้นโยบาย และแนวทางในการแก้ปัญหาโดยยึดหลักการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นธรรม และการไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการไม่ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเคร่งครัดเสมอมา และไม่มีเหตุผล หรือความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องทำร้ายพี่น้องประชาชน
พ.อ.ปราโมทย์ ยังได้กล่าวอีกว่า ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งจะเร่งประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าวอย่างเร่งด่วนต่อไป พร้อมทั้งจะยังคงดำรงความมุ่งหมายในมาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมกับขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันแจ้งเบาะแส หรือข้อมูลใดๆ ที่เป็นประโยชน์ โทร.สายด่วน 1341 ตลอด 24 ชั่วโมง