ตรัง - เจ้าสัวซีพี สั่งออเดอร์ไม้แกะสลักเทพทาโร 4 ล้านบาท จากกลุ่มแกะสลักไม้เทพทาโร จังหวัดตรัง เพื่อให้ผลิตเทพเจ้า-สัตว์มงคลจีน ไว้นำไปมอบเป็นที่ของระลึกในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556
นายวิเชษฐ์ ชุมดี ประธานกลุ่มแกะสลักไม้เทพทาโร ผลิตภัณฑ์ OTOP ชื่อดังของจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สินค้าจากไม้เทพทาโรมีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 มีออเดอร์สั่งผลิตชิ้นงานเข้ามาก มูลค่าเฉลี่ยเดือนละ 2 แสนบาท จนทำให้การผลิตล้นมือ ส่งมอบสินค้าไม่ทันตามที่กำหนด แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เข้าใจ ล่าสุด มีออเดอร์สั่งผลิตชิ้นงานรวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท จาก นายธนินทร์ และนายจรัญ เจียรวนนท์ เจ้าสัวซีพี โดยรูปแบบชิ้นงานเน้นเทพเจ้าจีน และสัตว์มงคลที่ชาวจีนให้ความเคารพนับถือ ผสมผสานกับศิลปะไทย ซึ่งขณะนี้ ทางกลุ่มกำลังเร่งการผลิตอยู่ คาดว่าจะสามารถส่งมอบชิ้นงานได้ในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดคำสั่งซื้อจะมีเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย แต่ก็ยังไม่ส่งผลกระทบทำให้วัตถุดิบจำพวกไม้เทพทาโรที่ทางกลุ่มใช้ผลิตประสบปัญหาขาดแคลน เนื่องจากปัจจุบันมีการเก็บสต๊อกไม้ไว้ใช้นานถึง 10 ปี และยังมีแปลงปลูกทดแทน จึงไม่ต้องกังวลว่าไม้จะขาดแคลน ส่วนแรงงานก็มีการพัฒนาตลอด ด้านตลาดก็มีเพิ่มขึ้น และราคาก็มีการกำหนดเอง จึงยังไม่พบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบยอดขายกับปีที่แล้ว พบว่า ชิ้นงานที่เป็นของที่ระลึกจะมียอดขายดีกว่า แต่พอมาปีนี้ ของที่ระลึกจะมียอดขายลดลงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับมีงานชิ้นใหญ่ที่มีราคาสูงเข้ามาแทนมากขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่า ยอดขายในปี 2556 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเศรษฐกิจดีขึ้น ส่งผลให้มีเศรษฐีหน้าใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก จึงทำให้คนเริ่มกล้าที่จะนำเงินออกมาใช้จ่ายซื้อสินค้าที่มีราคาสูงขึ้น จากนิยมซื้อสินค้าชิ้นละ 500 บาท ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาซื้อชิ้นละ 2,000 บาทขึ้นไป หรือในกลุ่มนักสะสม จากเดิมที่เคยสั่งซื้อชิ้นงานครั้งละ 100,000-200,000 บาท ก็หันมาซื้อชิ้นใหญ่ที่มีราคาแพง 1-2 ล้านบาท
ส่วนการเปิดตลาดต่างประเทศ เพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 นั้น ประธานกลุ่มแกะสลักไม้เทพทาโร จังหวัดตรัง มองว่า กลุ่มศิลปะเกี่ยวกับไม้แกะสลักส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยมากกว่า ส่วนลูกค้าต่างชาติก็มีบ้างเฉพาะกลุ่ม แต่ไม่มากนัก และการที่หลายภาคส่วนเริ่มตื่นตัวในการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดอาเซียน ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก จะทำให้สามารถกำหนดราคาที่สูงขึ้นได้ และยังทำให้ของที่ระลึกขายดีอีกด้วย แต่ในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้น ยอมรับว่า ยังไม่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ และยังอาศัยหน่วยงานราชการจัดโรดโชว์อยู่ จึงมองว่ายังไม่มีความจำเป็น