ตรัง - 2 โจ๋หัวเกรียนจี้ชิงสร้อยคอหนัก 1 บาท ภรรยาเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร กอ.รมน.ตรัง ก่อนถูกฝ่ายสามีมาดักรอจับคนร้ายกลางถนน แล้วชัก.38 ยิงใส่ หลังจากพยายามหลบหนี
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 5 ธันวาคม 55 ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ที่บริเวณถนนหมู่ที่ 7 ต.ควนปริง อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานไปยังชุดสายตรวจปราบปรามเข้าตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ล้มคว่ำในที่เกิดเหตุ โดยมี น.ส.ทิวารัตน์ แดนโคกพลา อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ที่ 9 ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง ผู้เสียหาย ยืนรอเจ้าหน้าที่ด้วยอาการตกใจหน้าซีด และในมือยังถือเศษสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท ที่ถูกคนร้ายกระชากขาดไป จนเหลือแค่ 3 สลึง มามอบให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองตรัง ไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน น.ส.ทิวารัตน์ ให้การว่า ขณะกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากสวนยางพาราเพื่อเดินทางกลับบ้านที่ ต.โคกหล่อ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 3 กม. โดยใช้เส้นทางสายดังกล่าว ระหว่างทางเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุก็ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน รูปร่างผอม สูง ผิวดำ และผมสั้นเกรียน อายุประมาณ 20 ปีเศษ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับขี่สวนทางมา แต่เมื่อเห็นตนขับขี่รถมาคนเดียวก็เลี้ยวรถกลับแล้วขับขี่ตามหลังมา จากนั้นคนร้านที่นั่งซ้อนท้ายก็ได้ชักอาวุธปืนออกมาขู่บังคับให้จอดรถ ด้วยความตกใจจึงเหยียบเบรกรถกะทันหันทำให้รถเสียหลักล้มลงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
หลังจากนั้น คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายรถก็ลงมากระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จนขาดออกจากคอ เหลือทิ้งไว้แค่เศษสร้อยคอแค่ 3 สลึง ก่อนวิ่งไปที่เพื่อนอีกคนที่สตาร์ทเครื่องรอขับขี่พาหลบหนีไป ทั้งนี้ หลังจากคนร้ายไปแล้วตนได้ร้องขอความช่วยเหลือจากคนขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี แต่กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ ตนจึงโทรศัพท์ไปแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้นให้สามี ซึ่งอยู่ในสวนยางพารา พร้อมกับบอกรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย และรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ
ขณะที่ นายสินาด ปานสิทธิ์ อายุ 60 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร กอ.รมน.จ.ตรัง ซึ่งเป็นสามีของผู้เสียหายให้การว่า หลังจากได้รับทราบเรื่องราวจากภรรยาแล้ว ก็รีบขับขี่รถมาดักรอคนร้ายที่บริเวณสามแยกทางเข้าเรือนจำ จ.ตรัง ที่คาดว่าจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี กระทั่งพบเห็นรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย และคนร้ายลักษณะตรงตามที่ภรรยาบอก ตนจึงได้ชักอาวุธปืนพกสั้น ขนาด.38 ออกมายืนขวางทาง พร้อมกับตะโกนบอกให้หยุดรถ แต่คนร้ายทั้ง 2 ซึ่งกำลังขับขี่รถมาด้วยความเร็วสูงกลับพูดขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า “ไม่ใช่” ก่อนจะขับขี่รถผ่านไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อตนเห็นทั้ง 2 คน พยายามหลบหนี จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายในระยะ 10 เมตร ซึ่งก็ไม่ทราบว่ากระสุนถูกหรือไม่ แต่เห็นคนร้ายใช้มือเอื้อมมาปิดที่ข้างหลัง
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายทั้งคู่อาจเป็นคนในพื้นที่ โดยขณะกำลังตระเวนหาเหยื่อก็พบกับผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิงขับขี่รถมาคนเดียว จึงได้ลงมือก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ดังกล่าว ซึ่งหลังจากรับแจ้งความแล้ว ก็ได้ประสานไปยังชุดสายตรวจปราบปราม สภ.เมืองตรัง ให้ออกไล่ล่าคนร้ายแล้ว และคาดว่าหากถูกยิงก็คงจะหลบหนีไปไม่ได้ไกล