นครศรีธรรมราช - ตร.นครศรี-สันติบาล บุกบ้านเลขาธิการเครือข่ายประชาชน 14 จังหวัดใต้ ทำครอบครัวผวา บี้ถาม “ประชาธิปัตย์หนุนเงินหรือไม่” ขณะที่เจ้าตัวยันเงินทุกบาทมาจากยอดบริจาค และเงินของผู้ชุมนุมช่วยกันลงขัน เผยประชาชนแห่ชุมนุมเนืองแน่น คาดยอดจากภาคใต้ทะลุ 1 แสนคน
วันนี้ (22 พ.ย.) ความเคลื่อนไหวในการเข้าร่วมการชุมนุมกลุ่มองค์การพทักษ์สยาม ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช พบว่าเป็นไปด้วยความคึกคัก หลายกลุ่มได้เตรียมความพร้อมเพื่อเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว รถไฟ และรถบัส ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้เร่งชุดสืบสวนหาข่าวเพื่อรายงานไปยังต้นสังกัดถึงความเคลื่อนไหวของแกนนำ และมวลชนที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ อย่างจ้าละหวั่น
นายวรวุฒิ แซ่ตั้ง เลขาธิการเครือข่ายประชาชน 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า มาถึงวันนี้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ได้ตื่นตัวอย่างมาก หลายจังหวัดได้ประสานแจ้งมาถึงความพร้อม ทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้จาก 16 จังหวัดภาคใต้ที่เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 100,000 คนนั้นไม่น่าเป็นห่วงแล้ว จำนวนคนถึงเป้าหมายนี้แน่นอน และในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช ปรากฏว่า รถบัสที่เตรียมไว้ไม่เพียงพอ กำลังเร่งหาเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ในส่วนของรถไฟนั้นที่ได้จองเตรียมไว้ไม่เพียงพอแล้วเช่นกัน เนื่องจากจำนวนผู้ที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางไปร่วมชุมนุมล้นโบกี้
“หลังจากที่เปิดเผยข้อมูลส่วนหนึ่งไปวานนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 นาย ทราบว่ามาจากงานสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช มาถึงบ้านตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้ครอบครัวไม่ค่อยสบายใจมากนัก พ่อเกรงว่าตำรวจจะอุ้ม เนื่องจากมาถึงบ้านแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 นายได้พูดจาด้วยอัธยาศัยดี บอกว่านายให้มาพบเพื่อหาข้อมูลที่แน่นอน พร้อมกันนั้น ได้ขอบันทึกภาพผมกับเขา อ้างว่าเอาไปให้นายดูว่าได้มาหาถึงตัวแล้ว
ส่วนการซักถามนั้น ตำรวจพยายามถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้สนับสนุนเงินมาให้เคลื่อนไหวหรือไม่ ผมตอบว่าไม่มีสักบาท เงินที่ได้พ่อค้าแม่ขายในนครศรีธรรมราชร่วมกันบริจาคมาเรื่อยๆ เอามาบริหารจัดการค่าเดินทาง และคนที่เดินทางไปก็ต้องจ่ายค่าเดินทางประมาณคนละ 400 บาท แต่ถ้ายอดเงินบริจาคเพียงพอเงินนี้จะคืนให้แก่ประชาชนที่เดินทางบนรถ นอกจากนั้น ยังมีตำรวจสันติบาลมาขอพบ แต่รายนั้นได้โทร.มาก่อนล่วงหน้าแล้วนัดหมายกันจึงไม่เป็นที่น่าตกใจของครอบครัว” นายวรวุฒิกล่าว
ส่วนทางด้านกองร้อยปราบจลาจลของตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้ออกเดินทางไปเมื่อคืนที่ผ่านมา จำนวน 1 กองร้อย ยอดรวม 156 นาย พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือปราบจลาจล หรือเครื่องมือควบคุมฝูงชน โดยทุกนายถูกสั่งห้ามเข้าร่วมการชุมนุมโดยเด็ดขาด และเมื่ออยู่ในช่วงพักจะต้องอยู่เฉพาะที่ตั้งเท่านั้น และสั่งห้ามพกพาอาวุธทุกชนิด วัตถุอันตราย ห้ามเล่นการพนัน และดื่มสุราโดยเด็ดขาดด้วย
วันนี้ (22 พ.ย.) ความเคลื่อนไหวในการเข้าร่วมการชุมนุมกลุ่มองค์การพทักษ์สยาม ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช พบว่าเป็นไปด้วยความคึกคัก หลายกลุ่มได้เตรียมความพร้อมเพื่อเดินทางเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว รถไฟ และรถบัส ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้เร่งชุดสืบสวนหาข่าวเพื่อรายงานไปยังต้นสังกัดถึงความเคลื่อนไหวของแกนนำ และมวลชนที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ อย่างจ้าละหวั่น
นายวรวุฒิ แซ่ตั้ง เลขาธิการเครือข่ายประชาชน 14 จังหวัดภาคใต้ เปิดเผยว่า มาถึงวันนี้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ได้ตื่นตัวอย่างมาก หลายจังหวัดได้ประสานแจ้งมาถึงความพร้อม ทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้จาก 16 จังหวัดภาคใต้ที่เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 100,000 คนนั้นไม่น่าเป็นห่วงแล้ว จำนวนคนถึงเป้าหมายนี้แน่นอน และในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช ปรากฏว่า รถบัสที่เตรียมไว้ไม่เพียงพอ กำลังเร่งหาเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ในส่วนของรถไฟนั้นที่ได้จองเตรียมไว้ไม่เพียงพอแล้วเช่นกัน เนื่องจากจำนวนผู้ที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางไปร่วมชุมนุมล้นโบกี้
“หลังจากที่เปิดเผยข้อมูลส่วนหนึ่งไปวานนี้ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 นาย ทราบว่ามาจากงานสืบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช มาถึงบ้านตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้ครอบครัวไม่ค่อยสบายใจมากนัก พ่อเกรงว่าตำรวจจะอุ้ม เนื่องจากมาถึงบ้านแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 นายได้พูดจาด้วยอัธยาศัยดี บอกว่านายให้มาพบเพื่อหาข้อมูลที่แน่นอน พร้อมกันนั้น ได้ขอบันทึกภาพผมกับเขา อ้างว่าเอาไปให้นายดูว่าได้มาหาถึงตัวแล้ว
ส่วนการซักถามนั้น ตำรวจพยายามถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้สนับสนุนเงินมาให้เคลื่อนไหวหรือไม่ ผมตอบว่าไม่มีสักบาท เงินที่ได้พ่อค้าแม่ขายในนครศรีธรรมราชร่วมกันบริจาคมาเรื่อยๆ เอามาบริหารจัดการค่าเดินทาง และคนที่เดินทางไปก็ต้องจ่ายค่าเดินทางประมาณคนละ 400 บาท แต่ถ้ายอดเงินบริจาคเพียงพอเงินนี้จะคืนให้แก่ประชาชนที่เดินทางบนรถ นอกจากนั้น ยังมีตำรวจสันติบาลมาขอพบ แต่รายนั้นได้โทร.มาก่อนล่วงหน้าแล้วนัดหมายกันจึงไม่เป็นที่น่าตกใจของครอบครัว” นายวรวุฒิกล่าว
ส่วนทางด้านกองร้อยปราบจลาจลของตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้ออกเดินทางไปเมื่อคืนที่ผ่านมา จำนวน 1 กองร้อย ยอดรวม 156 นาย พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือปราบจลาจล หรือเครื่องมือควบคุมฝูงชน โดยทุกนายถูกสั่งห้ามเข้าร่วมการชุมนุมโดยเด็ดขาด และเมื่ออยู่ในช่วงพักจะต้องอยู่เฉพาะที่ตั้งเท่านั้น และสั่งห้ามพกพาอาวุธทุกชนิด วัตถุอันตราย ห้ามเล่นการพนัน และดื่มสุราโดยเด็ดขาดด้วย
