xs
xsm
sm
md
lg

นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมืองปัตตานี ชมพหุวัฒนธรรม “จีน-พุทธ-มุสลิม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือ “ศาลเจ้าเล่งจูเกียง”
เมื่อเอ่ยถึง “จังหวัดชายแดนภาคใต้” หลายๆ คนมักจะโยงไปถึงภาพเหตุการณ์ไม่สงบ เสียงระเบิด และกระสุนปืน แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งพื้นที่นี้กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธาท่ามกลางความเชื่อหลากหลาย เกิดเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม “จีน-พุทธ-มุสลิม” ที่อยู่ร่วมกันมาอย่างช้านาน โดยเฉพาะในจังหวัดปัตตานี
ประชนทุกสารทิศเดินทางมากราบขอพรเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวและองค์พระต่างๆ ภายในศาลเจ้าอย่างไม่ขาดสาย
 
จังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นอีกที่หนึ่งที่โดดเด่นในแง่สังคมพหุวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อของจังหวัดนี้มีทั้งวัด มัสยิด และศาลเจ้าของพี่น้องชาวจีน โดยเฉพาะมัสยิดกรือเซะ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ตันหยงลูโละ อ.เมืองปัตตานี เป็นศาสนสถานของพี่น้องมุสลิมนั้น ใช้ปฏิบัติศาสนกิจมากันตั้งแต่ก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น และยังคงใช้ปฏิบัติศาสนกิจต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ถัดจากมัสยิดกรือเซะ ก็เป็นสุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ศาสนสถานที่พี่น้องชาวจีนเคารพนับถือ

ส่วน ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือ “ศาลเจ้าเล่งจูเกียง” นั้น ตั้งอยู่ที่ ถ.อาเนาะรู ต.อาเนาะรู อ.เมืองปัตตานี เป็นศาลเจ้าเก่าแก่เดิมเรียกว่า “ศาลเจ้าโจ้วซูกง” เมื่อ พ.ศ.2407 หลวงสำเร็จกิจกรจางวางได้ร่วมกับชาวจีนในเมืองปัตตานีบูรณะศาลเจ้าขึ้นใหม่ และต่อมา หลวงจีนคณานุรักษ์ได้อัญเชิญรูปจำลององค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งเดิมประดิษฐานอยู่ที่บ้านกรือเซะมาประจำศาลเจ้าแห่งนี้ และเรียกชื่อใหม่ว่า “ศาลเจ้าเล่งจูเกียง” โดยจะมีพิธีสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และองค์พระอื่นๆ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี


 
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เคยเสด็จเยือนศาลเจ้าแห่งนี้ถึงสองครั้งสองครา เมื่อครั้งเสด็จประพาสแหลมมลายู ใน พ.ศ.2431 และ พ.ศ.2443 และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) เคยเสด็จเยือนเมื่อคราวเสด็จประพาสมณฑลปัตตานีใน พ.ศ.2453 โดยทรงพระราชทานกระถางธูปแก่ศาลเจ้าด้วย

และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จเยือนใน พ.ศ.2519 พร้อมพระราชทานกระถางธูปแก่ศาลเจ้า

ปัจจุบัน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ นิยมเดินทางมานมัสการขอพรจากเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และเที่ยวงานสมโภชที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี


 
นอกจากนี้ จ.ปัตตานี ยังมีวัดชื่อดังอีกแห่งที่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศนิยมเดินทางไปนมัสการขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นั่นก็คือ “วัดช้างให้” หรือชื่อเต็มว่า วัดราษฎร์บูรณะ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ โดยตามตำนานเล่าว่า พระยาแก้มดำ เจ้าเมืองไทรบุรี ต้องการหาชัยภูมิสร้างเมืองให้น้องสาว จึงได้เสี่ยงสัตย์อธิษฐานปล่อยช้างเจ้าเมืองและไพร่พลเดินตามไป เมื่อมาถึงป่าแห่งหนึ่ง (ที่วัดช้างให้ปัจจุบัน) ช้างก็เดินวนเวียน และส่งเสียงร้อง 3 ครั้ง พระยาแก้มดำจึงถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะสร้างเมือง แต่ปรากฏว่า น้องสาวไม่ชอบใจ จึงได้เสี่ยงสัตย์ปล่อยช้างใหม่

ต่อมา ช้างได้เดินไปยังบริเวณชายทะเลแห่งหนึ่ง (ตำบลกรือเซะในปัจจุบัน) ช้างไม่ได้ส่งเสียงร้อง แต่น้องสาวของพระยาแก้มดำรู้สึกพอใจชัยภูมิดังกล่าว จึงขอให้พระองค์สร้างเมืองขึ้นโดยใช้ชื่อว่า “เมืองปัตตานี” เมื่อสร้างเมืองแล้วเสร็จก็ได้เดินทางกลับผ่านทางเดิม พระยาแก้มดำก็ได้ให้ขบวนหยุดพักที่กลางป่าซึ่งช้างร้องบอกคราวแรก และให้ไพร่พลแผ้วถางป่าบริเวณดังกล่าวสร้างเป็นวัดขึ้น โดยตั้งชื่อว่า “วัดช้างให้” และมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั้งในพื้นที่ภาคใต้ และจังหวัดต่างๆ ของประเทศไทย รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คือ “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด”
วัดช้างให้ ศาสนสถานที่พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลมานมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์
สถาปัตยกรรมภายในวัดคงความงามตามแบบฉบับวัดไทยในอดีต

มาถึงวัดช้างให้ต้องไม่พลาด ขอพรลอดท้องช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล
สถูปที่บรรจุอัฐิหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด
หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เกจิอาจารย์คนสำคัญ
 
ข้อมูลการเดินทาง

มัสยิดกรือเซะ ตั้งอยู่ที่บ้านกรือเซะ ต.ตันหยงลูโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตร ติดกับถนนสายปัตตานี-นราธิวาส

ศาลเจ้าเล่งจูเกียง หรือศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นศาลที่ประดิษฐานรูปแกะสลักของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว พระหมอ เจ้าแม่ทับทิม ตั้งอยู่ที่เลขที่ 63 ถ.อาเนาะรู อ.เมือง จ.ปัตตานี โทรศัพท์ 0-7333-2851

วัดช้างให้ หรือวัดราษฎร์บูรณะ ตั้งอยู่ริมทางรถไฟสายหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก หรือทางรถยนต์สายปัตตานี-หนองจิก-นาเกตุ-นาประดู่-ยะลา ห่างจากตลาดนาประดู่ประมาณ 4 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองปัตตานี 30 กิโลเมตร โทรศัพท์ 0-7335-8586
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น