ตรัง - นักวิชาการเมืองตรังมองเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หลังผู้บริหารคนเก่าสอบตกราวรูดในหลายพื้นที่ มาจากกระแสโลกาภิวัตน์ที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว และชัดเจน อันเป็นอิทธิพลที่ได้รับมาจากการศึกษา และเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงอยากได้คนยุคใหม่ที่ตั้งใจเข้ามาบริหารงานเพื่อส่วนรวม
วันนี้ (9 พ.ย.) นายสฤษดิ์ ธัญกิจจานุกิจ ผู้อำนวยการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตศูนย์ตรัง กล่าวถึงผลการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายพื้นที่ในปี 2555 เช่น เทศบาลนครตรัง เทศบาลเมืองกันตัง เทศบาลตำบลโคกหล่อ รวมทั้งการเลือกตั้ง 8 องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ล่าสุด ที่มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งผู้บริหาร หรือนายกทั้งหมดนั้นถือเป็นปรากฎการณ์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
โดยเป็นผลมาจากการที่ผู้คนในปัจจุบันมักจะคิดเร็ว ทำเร็ว ตามกระแสเทคโนโลยี อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ หรือตามกระแสโลกาภิวัตน์ที่มีอยู่ในยุคของการเปลี่ยน (Change) อย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องการซื้อเสียงแม้จะมีอยู่ในระดับหนึ่ง แต่คงมิใช่ปัจจัยหลักที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลง จึงจำเป็นที่ผู้บริหารยุคใหม่จะต้องรีบปรับตัว มิเช่นนั้นโอกาสที่จะสอบตกก็ย่อมจะมีสูง
นายสฤษดิ์ ยังเห็นอีกว่า หากในช่วงระยะเวลา 4 ปี ของการดำรงตำแหน่งผู้บริหาร หรือนายกมีผลงานแสดงต่อสาธารณชนได้ไม่ชัดเจน ก็อาจมีโอกาสที่จะถูกเปลี่ยนให้คนหน้าใหม่เข้ามาแทนทันที เพราะผู้คนในปัจจุบันต้องการเห็นอะไรที่รวดเร็ว ซึ่งปรากฎการณ์เช่นนี้จะส่งผลดี คือ เป็นแรงกระตุ้นให้ผู้บริหารยุคใหม่ ต้องพยายามทำงานอย่างเต็มที่ในช่วงของการดำรงตำแหน่ง แต่จะส่งผลเสีย คือ นโยบาย หรืองานไม่ต่อเนื่อง และอาจเกิดความขัดแย้งระหว่างลูกน้องเก่ากับใหม่ ซึ่งกำลังติดตามดูว่ากระแสเปลี่ยนผู้บริหารดังกล่าว จะส่งผลไปถึงการเลือกตั้งอื่นๆ อีกหรือไม่ แต่ยังเชื่อว่าบางเขตที่คนเดิมมีฐานเสียงหนาแน่นจริงๆ ก็น่าจะยังคงสอบผ่านอีกสมัย
นายพีรศักดิ์ ว่องวชิราพาณิชย์ ธรรมาภิบาลจังหวัดตรัง และอาจารย์ภาควิชาคุณธรรม จริยธรรม วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตรัง กล่าวถึงสถิติของการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่า ผู้บริหารเก่ามีโอกาสจะหลุดจากตำแหน่งถึง 75% และเป็นช่องทางให้คนใหม่เข้ามาบริหารงานแทน หากคนเก่ามีผลงานไม่ดี ไม่ชัดเจน หรือไม่เป็นรูปธรรม ซึ่งชาวบ้านสามารถรับรู้ได้ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มีการบริหารในรูปแบบเดิมๆ ที่ไม่ทำให้เกิดการพัฒนาท้องถิ่น
โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น หรือกลุ่มคนทำงานที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง อันเป็นอิทธิพลที่ได้รับมาจากการศึกษา และเทคโนโลยีสมัยใหม่ จึงอยากได้คนยุคใหม่ที่ตั้งใจเข้ามาทำงานเพื่อส่วนรวมจริงๆ และเพื่อแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันที่กำลังระบาดไปทุกหย่อมหญ้า โดยเฉพาะในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
