ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “เสี่ยโจ้” เจ้าของธุรกิจรับส่งน้ำมัน และสัมปทานไม้รายใหญ่ เปิดแถลงข่าวโต้ปฏิเสธค้าน้ำมัน-ไม้เถื่อน ลั่นไม่ใช่ท่อน้ำเลี้ยงแนวร่วมป่วนใต้ หลังทหารจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ DSI เข้าตรวจค้นบริษัทเมื่อกลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
วันนี้ (5 พ.ย.) นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ “เสี่ยโจ้” เจ้าของและผู้จัดการ หจก.สหทรัพย์ทวีค้าไม้ ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตอุตสาหกรรมปัตตานี ได้เปิดแถลงข่าว พร้อมนำเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นำโดย พ.อ.จตุพร กลัมพสุต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ได้บุกเข้าตรวจค้นบริษัท หลังจากนั้นสื่อมวลชนหลายแขนงได้นำเสนอข่าวว่า บริษัทของตนทำธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งค้าไม้เถื่อน ค้าน้ำมันเถื่อน รวมทั้งกล่าวหาว่านำของกลางไปหลบซ่อน และให้เม็ดเงินสนับสนุนกลุ่มแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดเป็นการนำเสนอที่คลาดเคลื่อนกับข้อเท็จจริง
นายสหชัย กล่าวอีกว่า บริษัทของตนได้ถูกตรวจค้นจาก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และดีเอสไอจริง แต่หลังจากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการอายัดทรัพย์สินของบริษัท ทั้งรถยนต์ น้ำมัน ไม้ และเงินไว้เป็นของกลางแต่อย่างใด อีกทั้งจากบันทึกการตรวจค้นก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด ดังนั้น ตนจึงมีสิทธิในการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินทั้งหมดได้ตามปกติ
ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่า บริษัทของตนค้าน้ำมันเถื่อนนั้นก็ไม่เป็นความจริง เนื่องจากบริษัทมีการทำธุรกิจรับจ้างบรรทุกน้ำมันจากประเทศสิงคโปร์ไปยังประเทศที่ 3 คือ กัมพูชา และพม่าโดยทางเรือ ขณะที่รถบรรทุกจำนวน 2 คัน ที่อยู่ภายในบริษัทนั้นไม่ใช่ของตน แต่เป็นรถบรรทุกน้ำยางของเพื่อนฝูงที่นำมาจำนำเอาไว้เท่านั้น ส่วนในเรื่องของไม้เถื่อนตนขอชี้แจงว่า บริษัทมีธุรกิจสัมปทานไม้กับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว และกัมพูชา ซึ่งมีเอกสารถูกต้อง และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็ได้มีการตรวจสอบแล้ว และพบว่าไม่ได้มีไม้เถื่อนอย่างที่เป็นข่าว
“ทางบริษัทได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวงจากการนำเสนอข่าวดังกล่าว จึงใคร่ขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน และแม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ว่า ทางบริษัทไม่ได้ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องดังกล่าวเป็นการกล่าวหาที่รุนแรง และไม่มีหลักฐานข้อเท็จจริงที่เชื่อถือได้ ขอยืนยันว่า บริษัททำธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย ผมเป็นคนไทยที่ทำธุรกิจภายใต้กฎหมาย มีความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกับคนไทยทุกคน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุความไม่สงบ”
นายสหชัย ยังกล่าวอีกว่า จากการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ทำให้ตน และครอบครัว รวมทั้งหุ้นส่วนทางธุรกิจได้รับความเสียหาย จึงอยากเรียกร้องให้นำเสนอข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รวมทั้งจะเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมจากแม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าอีกด้วย