ตรัง - รวบหนุ่มใหญ่ชาว อ.ห้วยยอด ยึดอาชีพขายยาบ้า อ้างเพื่อนำเงินมาเลี้ยงดูลูกสาววัย 4 ขวบ หลังเมียถูกจับติดคุกคดีเดียวกัน พบประวัติถูกตั้งค่าหัวนำจับ 3 หมื่นบาท
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (2 พ.ย.) พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ สังข์สุข ปลัดอำเภอห้วยยอด และ พ.ต.ท.ปรีดี นาคช่วย รอง ผกก.ป.สภ.ห้วยยอด ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายประสิทธิ์ ดีเบา อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 207 หมู่ที่ 6 ต.บางกุ้ง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียาเสพติด พร้อมยาบ้า จำนวน 1,500 เม็ด อาวุธปืน ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน จำนวน 7 นัด นอกจากนั้น ยังยึดทรัพย์รถกระบะ รถยนต์เก๋ง รถจักรยานยนต์ คอมพิวเตอร์ ตู้เชื่อมเหล็ก เครื่องสูบน้ำ เครื่องตัดหญ้า และเครื่องฉีดหญ้า รวมมูลค่าร่วม 2 ล้านบาท ไว้เป็นของกลางด้วย
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ได้นำกำลังพร้อมหมายศาล จ.ตรัง เข้าตรวจค้นบ้านของผู้ต้องหา และพบ นายประสิทธิ์ กำลังนั่งอยู่บนขนำ โดยมีกระเป๋าแบบคาดสะเอววางอยู่ เมื่อตรวจค้นพบขวดพลาสติก จำนวน 2 ขวด ที่ใช้บรรจุยาบ้า จำนวน 1,500 เม็ด และที่ประตูขนำยังพบอาวุธปืน ขนาด 11 มม. พร้อมกระสุนวางอยู่ จึงได้ตรวจยึดพร้อมกับแจ้งข้อหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวน. สภ.ห้วยยอด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบสวน นายประสิทธิ์ รับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวเป็นของตน โดยมีนายเล็ก ไม่ทราบชื่อ และนามสกุลจริง บ้านอยู่ที่ อ. บางขัน จ.นครศรีธรรมราช นำมาส่งให้เมื่อ 3-4 วันที่แล้ว จำนวน 1,500 เม็ด แล้วนำไปขายให้แก่วัยรุ่นในพื้นที่ เพื่อนำเงินที่ได้เลี้ยงดูลูกสาววัย 4 ขวบ ที่ไม่มีใครดูแล เนื่องจากภรรยาตนได้ติดคุกในคดีจำหน่ายยาบ้า ตั้งแต่เมื่อปี 2552 ขณะที่ตนเองก็เคยถูกจับกุมในคดีร่วมกันจำหน่ายยาบ้า จำนวน 400 เม็ด ที่ จ.อุตรดิตถ์ จนต้องติดคุกอยู่ 3 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2548 แต่ก็ยังกลับมาค้ายาบ้าอีก กระทั่งถูกจับกุมล่าสุดดังกล่าว
ส่วนอาวุธปืน ขนาด 11 มม. เป็นของนายสิบทหารชื่อ นิน ซึ่งทำงานอยู่ที่ค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ ร.15 พัน 4 จ.ตรัง ซึ่งนำมาจำนำไว้จำนวน 20,000 บาท เมื่อ 4-5 เดือนที่แล้ว สำหรับ นายประสิทธิ์ นั้น ถือเป็นผู้ต้องหาตามประกาศหมายจับคดียาเสพติดของ ภ.จว.ตรัง โดยมีรางวัลนำจับ จำนวน 30,000 บาท
