ปัตตานี - ตำรวจปัตตานีตั้งเงินรางวัลนำจับแก่ผู้ชี้เบาะแสรถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุในพื้นที่ 3 จชต. 2 คัน ทั้งโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ผก 7930 สงขลา และอีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน กบ 5960 สงขลา หวั่นประกอบเป็นระเบิดคาร์บอมบ์หลังใช้เป็นพาหนะก่อเหตุหลายครั้ง
พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งการลอบยิงเจ้าหน้าที่ และประชาชน รวมไปถึงการลอบวางระเบิดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งในการก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่รัฐ หรือการก่อเหตุที่ต้องใช้แผนลวงก่อนจะลอบวางระเบิดแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่กลุ่มก่อความไม่สงบจะใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะในการลอบยิง หรือประกอบดัดแปลงเป็นระเบิดคาร์บอมบ์ โดยเฉพาะเหตุในพื้นที่ จ.ปัตตานี
ทั้งการลอบยิงทหารเสียชีวิต 4 นาย ที่ อ.มายอ กราดยิงร้านทองก่อนจะลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 39 ราย ที่ อ.สายบุรี และล่าสุด กราดยิงอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.ยะหริ่ง เสียชีวิต 3 นาย ซึ่งทุกครั้งคนร้ายจะใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะก่อเหตุ และเป็นคันเดียวกัน แต่จะมีการดัดแปลงรูปโฉม และดัดแปลง หรือเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถทุกครั้ง และเมื่อนำมาใช้ก่อเหตุในหลายๆ ครั้ง กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก็จะนำรถมาดัดแปลงประกอบเป็นระเบิดคาร์บอมบ์ เหมือนเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่หน้าที่ว่าการอำเภอปะนาเระ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา และจะออกปล้นฆ่าชิงรถยนต์กระบะเพื่อนำมาเป็นพาหนะก่อเหตุอีก
“เพื่อเป็นการตัดช่องทางการก่อเหตุของคนร้าย ตนจึงได้ตั้งเงินรางวัลนำจับให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การตรวจยึดรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟรีรันเนอร์ ตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเบียน ผก 7930 สงขลา โดยมีเงินรางวัลนำจับ จำนวน 60,000 บาท และหากสามารถนำจับไปถึงตัวคนร้ายที่มีหมายจับ หรือเป็นเป้าหมายที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องการตัวก็จะเพิ่มเงินรางวัลอีก และจะปกปิดผู้ที่ชี้เบาะแสนำไปสู่การจับกุม ทั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก” ผบก.ภ.จ.ปัตตานีกล่าว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ตั้งเงินรางวัลนำจับเพิ่มอีก 100,000 บาท หากใครแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุม และยึดรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน กบ 5960 สงขลา
พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุความรุนแรงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งการลอบยิงเจ้าหน้าที่ และประชาชน รวมไปถึงการลอบวางระเบิดในรูปแบบต่างๆ ซึ่งในการก่อเหตุต่อเจ้าหน้าที่รัฐ หรือการก่อเหตุที่ต้องใช้แผนลวงก่อนจะลอบวางระเบิดแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่กลุ่มก่อความไม่สงบจะใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะในการลอบยิง หรือประกอบดัดแปลงเป็นระเบิดคาร์บอมบ์ โดยเฉพาะเหตุในพื้นที่ จ.ปัตตานี
ทั้งการลอบยิงทหารเสียชีวิต 4 นาย ที่ อ.มายอ กราดยิงร้านทองก่อนจะลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 39 ราย ที่ อ.สายบุรี และล่าสุด กราดยิงอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.ยะหริ่ง เสียชีวิต 3 นาย ซึ่งทุกครั้งคนร้ายจะใช้รถยนต์กระบะเป็นพาหนะก่อเหตุ และเป็นคันเดียวกัน แต่จะมีการดัดแปลงรูปโฉม และดัดแปลง หรือเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถทุกครั้ง และเมื่อนำมาใช้ก่อเหตุในหลายๆ ครั้ง กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบก็จะนำรถมาดัดแปลงประกอบเป็นระเบิดคาร์บอมบ์ เหมือนเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่หน้าที่ว่าการอำเภอปะนาเระ เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา และจะออกปล้นฆ่าชิงรถยนต์กระบะเพื่อนำมาเป็นพาหนะก่อเหตุอีก
“เพื่อเป็นการตัดช่องทางการก่อเหตุของคนร้าย ตนจึงได้ตั้งเงินรางวัลนำจับให้แก่ผู้ที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การตรวจยึดรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟรีรันเนอร์ ตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเบียน ผก 7930 สงขลา โดยมีเงินรางวัลนำจับ จำนวน 60,000 บาท และหากสามารถนำจับไปถึงตัวคนร้ายที่มีหมายจับ หรือเป็นเป้าหมายที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องการตัวก็จะเพิ่มเงินรางวัลอีก และจะปกปิดผู้ที่ชี้เบาะแสนำไปสู่การจับกุม ทั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก” ผบก.ภ.จ.ปัตตานีกล่าว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุด พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ตั้งเงินรางวัลนำจับเพิ่มอีก 100,000 บาท หากใครแจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุม และยึดรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ทะเบียน กบ 5960 สงขลา