นราธิวาส - ตรวจสอบบ้านแกนนำ RKK ใน อ.บาเจาะ พบดัดแปลงเป็นหน่วยปฏิบัติการย่อย มีอุปกรณ์ประกอบระเบิด เวชภัณฑ์ จุดสังเกตการณ์ พร้อมแนวทางหลบหนี เจ้าหน้าที่คาดแกนนำที่หลบหนีไปได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์ และอุปกรณ์ในการประกอบระเบิดอีกจำนวนหนึ่งหลบหนีไปด้วย
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (25 ต.ค.) ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.นย., พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันทร์ดี รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส, พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.บาเจาะ และนายอนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอบาเจาะ ได้ร่วมกันแถลงข่าวหลังจากเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายได้ร่วมกันทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งอยู่ ม.2 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา และสามารถวิสามัญแกนนำระดับปฏิบัติการของกองกำลังติดอาวุธ RKK เสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อคือ นายมะยากี ดิเย๊าะ หรือเปาะเย๊ อายุ 23 ปี พร้อมยึดอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.ได้ 1 กระบอก จากการตรวจสอบพบว่า เป็นอาวุธปืนที่ปล้นมาจากกองพันพัฒนาที่ 4 เมื่อปี 2547
ต่อมาในช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบที่บ้านพักอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่า บ้านหลังดังกล่าวนายมะยากีได้ปรับสภาพพื้นที่เป็นฐานปฏิบัติการย่อย มีการวางจุดสังเกตการณ์การบุกรุกของเจ้าหน้าที่รายรอบบริเวณ พร้อมทั้งวางแนวในการหลบหนีด้วย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางที่ซุกซ่อนอยู่ในฐานดังกล่าวได้เป็นจำนวนมาก เช่น เปลสนาม เป้สะพาย เสื้อผ้า ถุงยังชีพ อุปกรณ์ในการประกอบระเบิด เวชภัณฑ์ รองเท้าแตะ และสายไฟ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายอีก 3 คน ได้แก่ 1.นายอับดุลเลาะ อูแล อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นมือประกอบระเบิด 2.นายพาริ บือราเฮง อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกับพวกบุกปล้นปืนภายในกองพันพัฒนาที่ 4 เมื่อปี 2547 และ 3.นายมะรอมือลี การากาซอ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกแนวร่วม RKK สามารถนำอาวุธยุทโธปกรณ์ และอุปกรณ์ในการประกอบระเบิดอีกจำนวนหนึ่งหลบหนีไปได้
น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร เปิดเผยว่า การบุกทลายฐานปฏิบัติการย่อยของนายมะยากีในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากประชาชนได้แจ้งเบาะแส ซึ่งนายมะยากีเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.บาเร๊ะใต้ ได้เข้ามาสมทบกับกองกำลังติดอาวุธ RKK กลุ่มนายมะรอโซ จันทราวดี แกนนำในพื้นที่ ต.ปะลุกาสาเมาะ เพื่อรวมตัววางแผนร่วมก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ขึ้นในพื้นที่ อ.บาเจาะ ในช่วงคาบเกี่ยวเทศกาลฮารีรายอในวันที่ 26 ต.ค.ที่จะถึงนี้ แต่เจ้าหน้าที่สามารถบุกทลาย และยึดของกลางเอาไว้ได้
ส่วนคนร้ายอีก 3 คนที่หลบหนีได้นั้น ได้ร่วมกับนายมะยากีก่อเหตุวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู ภายในโรงเรียนบ้านบาตู อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2555 ลอบวางระเบิดตลาดต้นไทร อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2555 และลอบวางระเบิดรถหุ้มเกราะV150 ของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมาด้วย ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่ายได้ติดตามไล่ล่ากดดันเพื่อไม่ให้กลุ่มคนร้ายสามารถรวมตัวก่อเหตุในช่วงดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ หลักฐานสำคัญที่สามารถขยายผลไปสู่การดำเนินคดีคือ โทรศัพท์มือถือที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้ โดยพบว่า กลุ่มคนร้ายได้ถ่ายคลิปวิดีโอซึ่งเป็นผลงานในการวางระเบิดรถยนต์หุ้มเกราะ V150 เอาไว้ด้วย
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (25 ต.ค.) ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 32 ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.นย., พ.ต.อ.กฤษฎา แก้วจันทร์ดี รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส, พ.ต.อ.ภักดี ปรีชาชน ผกก.สภ.บาเจาะ และนายอนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอบาเจาะ ได้ร่วมกันแถลงข่าวหลังจากเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายได้ร่วมกันทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัยไม่มีเลขที่ ซึ่งตั้งอยู่ ม.2 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา และสามารถวิสามัญแกนนำระดับปฏิบัติการของกองกำลังติดอาวุธ RKK เสียชีวิต 1 คน ทราบชื่อคือ นายมะยากี ดิเย๊าะ หรือเปาะเย๊ อายุ 23 ปี พร้อมยึดอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.ได้ 1 กระบอก จากการตรวจสอบพบว่า เป็นอาวุธปืนที่ปล้นมาจากกองพันพัฒนาที่ 4 เมื่อปี 2547
ต่อมาในช่วงเช้าของวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบที่บ้านพักอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่า บ้านหลังดังกล่าวนายมะยากีได้ปรับสภาพพื้นที่เป็นฐานปฏิบัติการย่อย มีการวางจุดสังเกตการณ์การบุกรุกของเจ้าหน้าที่รายรอบบริเวณ พร้อมทั้งวางแนวในการหลบหนีด้วย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางที่ซุกซ่อนอยู่ในฐานดังกล่าวได้เป็นจำนวนมาก เช่น เปลสนาม เป้สะพาย เสื้อผ้า ถุงยังชีพ อุปกรณ์ในการประกอบระเบิด เวชภัณฑ์ รองเท้าแตะ และสายไฟ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายอีก 3 คน ได้แก่ 1.นายอับดุลเลาะ อูแล อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นมือประกอบระเบิด 2.นายพาริ บือราเฮง อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกับพวกบุกปล้นปืนภายในกองพันพัฒนาที่ 4 เมื่อปี 2547 และ 3.นายมะรอมือลี การากาซอ อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นสมาชิกแนวร่วม RKK สามารถนำอาวุธยุทโธปกรณ์ และอุปกรณ์ในการประกอบระเบิดอีกจำนวนหนึ่งหลบหนีไปได้
น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร เปิดเผยว่า การบุกทลายฐานปฏิบัติการย่อยของนายมะยากีในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจากประชาชนได้แจ้งเบาะแส ซึ่งนายมะยากีเคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ อ.บาเร๊ะใต้ ได้เข้ามาสมทบกับกองกำลังติดอาวุธ RKK กลุ่มนายมะรอโซ จันทราวดี แกนนำในพื้นที่ ต.ปะลุกาสาเมาะ เพื่อรวมตัววางแผนร่วมก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ขึ้นในพื้นที่ อ.บาเจาะ ในช่วงคาบเกี่ยวเทศกาลฮารีรายอในวันที่ 26 ต.ค.ที่จะถึงนี้ แต่เจ้าหน้าที่สามารถบุกทลาย และยึดของกลางเอาไว้ได้
ส่วนคนร้ายอีก 3 คนที่หลบหนีได้นั้น ได้ร่วมกับนายมะยากีก่อเหตุวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารชุด รปภ.ครู ภายในโรงเรียนบ้านบาตู อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 24 ก.ย.2555 ลอบวางระเบิดตลาดต้นไทร อ.บาเจาะ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2555 และลอบวางระเบิดรถหุ้มเกราะV150 ของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมาด้วย ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่ายได้ติดตามไล่ล่ากดดันเพื่อไม่ให้กลุ่มคนร้ายสามารถรวมตัวก่อเหตุในช่วงดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ หลักฐานสำคัญที่สามารถขยายผลไปสู่การดำเนินคดีคือ โทรศัพท์มือถือที่เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดได้ โดยพบว่า กลุ่มคนร้ายได้ถ่ายคลิปวิดีโอซึ่งเป็นผลงานในการวางระเบิดรถยนต์หุ้มเกราะ V150 เอาไว้ด้วย
