ประธาน กมธ.ตำรวจเกาะติดคดี “หมอสุพัฒน์” จับตาล้มคดี

ตรัง - ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ยังคงให้เวลาตำรวจสางคดีหมอสุพัฒน์เพื่อความกระจ่างชัด พร้อมจับตากระแสข่าวการล้มคดี และให้เป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่าย

วันนี้ (21 ต.ค.) นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นายเอก เลาหะวัฒนะ บุตรชายของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตนายแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมด้วยทนายความ ได้เข้าร้องขอให้คณะกรรมาธิการการตำรวจรับเรื่องไว้พิจารณาใน 3 ประเด็นหลัก คือ การใช้อำนาจรัฐของเจ้าหน้าที่ตำรวจ การสืบสวนสอบสวน และการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนคดี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ใหม่ ซึ่งคณะกรรมาธิการได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น

สำหรับประเด็นเรื่องการสืบสวนสอบสวน ลูกชายของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ระบุว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจในระหว่างเข้าจับกุมยังไม่มีข้อหาที่ชัดเจน อีกทั้งมีการนำเสนอข่าวรายวันชี้นำสังคม และมีการออกหมายเรียกกระทำโดยรวบรัด รวมถึงการบุกค้นบ้าน และไร่ที่จังหวัดเพชรบุรีก็ไม่มีตัวแทนของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เข้าร่วมด้วย

ซึ่งกรณีนี้ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจ ได้ตักเตือน พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ว่า ต่อไปห้ามมีการแถลงข่าวรายวันอีก แม้คดีนี้จะอยู่ในความสนใจของสังคม เพื่อความเป็นธรรมของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ส่วนสื่อมวลชนจะลงพื้นที่ไปติดตามคดีอย่างไร ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ขณะที่ประเด็นการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนคดี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ใหม่ ทางฝ่ายผู้ร้องไม่ติดใจอะไรแล้ว หลังจาก พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมายืนยันว่า ได้ให้กองปราบปรามเข้าไปร่วมทำคดีกับพนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ และขณะนี้ คดีก็มีความคืบหน้าไปอย่างมากแล้ว เหลือเพียงประเด็นการใช้อำนาจรัฐของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมาธิการการตำรวจอีกครั้ง ในวันพุธที่ 24 ตุลาคมนี้ แต่โดยเบื้องต้น ก็ยังเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะกรณีการตั้งข้อสังเกตถึงคดีที่เกิดขึ้นว่า พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง

นายสมชาย กล่าวว่า ประเด็นที่น่าสนใจที่พนักงานสอบสวนชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการตำรวจ ก็คือ หาก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไม่ใช่ผู้กระทำผิดต่อคดีนี้จริงๆ ทำไมจึงไม่ออกมามอบตัวเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจตั้งแต่ต้น ต้องรอจนกระทั่งมีการออกหมายจับไปแล้ว อีกทั้งการที่ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เป็นนายตำรวจระดับสูง จึงถูกวิพากษ์วิจารณ์กันว่า แมลงวันย่อมไม่ตอมแมลงวันด้วยกัน และอาจจะนำไปสู่การล้มคดี ซึ่งทำให้คณะกรรมาธิการต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งต่อผู้ร้อง และผู้เสียหาย