ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ว่าฯ สงขลา วางมาตรการแก้เกี้ยวคำขู่ห้ามค้าขายวันศุกร์ แบ่งงานลงพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนพร้อมประสานหน่วยงานในพื้นที่จัดเซฟตี้ โซนดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การปล่อยข่าวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ห้ามไม่ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ค้าขายในวันศุกร์ และจากเหตุการณ์ลอบทำร้ายผู้หญิง 3 คนใน อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อห้วงเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น จังหวัดสงขลาได้วางมาตรการที่จะรักษาความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนให้สามารถทำมาหากินได้อย่างเป็นปกติ ด้วยการให้นายอำเภอจัดกำลังตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีหมู่บ้านละ 7 นาย ออกไปดูแลความปลอดภัยบริเวณตลาดนัดชุมชน อำเภอ หรือเทศบาล เหมือนจัดเขตปลอดภัย (เซฟตี้ โซน) รวมทั้งจัดระเบียบ และตรวจตราการจัดการรถ
พร้อมทั้งให้นายอำเภอ เชิญชวนส่วนราชการที่ต้องซื้อสินค้าไว้ใช้ในแต่ละหน่วย เช่น โรงเรียนต้องซื้อวัสดุดิบไว้ประกอบอาหารสำหรับนักเรียน หรือหน่วยทหารจะต้องซื้อเสบียงนั้น ให้มาสั่งซื้อในวันพฤหัสบดี และนัดรับสิ่งของ หรืออาหารที่สั่งในวันศุกร์ รวมทั้งให้นายอำเภอประสานเทศบาล อบต. รวมทั้งภาคเอกชนจัดตลาดนัดจำหน่ายสินค้าในวันศุกร์ เพื่อทดแทนร้านค้าที่ยังปิด
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 คน รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดลงพื้นที่รับผิดชอบเป็นรายอำเภอ ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รับผิดชอบ อ.สะบ้าย้อย นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รับผิดชอบอำเภอเทพา นายพิรสิญจ์ พันธุ์เพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด รับผิดชอบอำเภอจะนะ และนายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รับผิดชอบอำเภอนาทวี เพื่อกำกับดูแลแต่ละอำเภอให้มีมาตรการเชิงรุก โดยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับทหาร ตำรวจ ดูแลที่ตั้งของตลาดนัด หรือตลาดชุมชนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ให้นายอำเภอลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมอย่างทั่วถึง ในขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้รับผิดชอบพื้นที่อำเภอ ออกตรวจเยี่ยมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเพิ่มขวัญ และกำลังใจอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้มีจดหมายเปิดผนึกถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอ เพื่อสร้างความเข้าใจในสถานการณ์ อย่าได้หลงเชื่อการปล่อยข่าวของผู้ไม่หวังดีที่ไม่ให้ค้าขายในวันศุกร์ เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าไม่มีศาสนาใด และกฎหมายใดที่อนุญาต หรือส่งเสริมให้มีการฆ่าทำร้ายกัน รวมทั้งการห้ามทำมาหากินในวันศุกร์ด้วย
นอกจากนี้ ยังได้แจ้งไปถึงทุกครอบครัวในพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอ ว่า หากครอบครัวใดมีบุตรหลานที่กระทำความผิด หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ให้ติดต่อกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้โดยตรง หรือติดต่อนายอำเภอ ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงาน ทั้งทหาร ตำรวจ ตามรายชื่อ และหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้แจ้งไว้ในจดหมายเปิดผนึกแล้ว ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับบัญชาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะช่วยเหลือ และให้ความเป็นธรรมในทุกกรณี เช่น การจัดหาทนายความให้ หรือหาหนทางให้ได้รับการประกันตัว หรือปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาคดี
หรือแม้แต่บุตรหลาน เยาวชนของครอบครัวใดที่ต้องการเรียนหนังสือ หรือฝึกอาชีพ ก็ให้มาติดต่อผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอำเภอแต่ละอำเภอ ซึ่งทุกคนยินดีที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ มาตรการต่างๆ ที่จังหวัดสงขลากำลังดำเนินการอยู่นี้ หวังเพียงให้ทุกคนได้ช่วยเหลือดูแลกัน ให้พี่น้องในทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ในพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอ ได้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขที่สุด
นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การปล่อยข่าวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่ห้ามไม่ให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ค้าขายในวันศุกร์ และจากเหตุการณ์ลอบทำร้ายผู้หญิง 3 คนใน อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อห้วงเดือนกันยายนที่ผ่านมานั้น จังหวัดสงขลาได้วางมาตรการที่จะรักษาความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนให้สามารถทำมาหากินได้อย่างเป็นปกติ ด้วยการให้นายอำเภอจัดกำลังตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีหมู่บ้านละ 7 นาย ออกไปดูแลความปลอดภัยบริเวณตลาดนัดชุมชน อำเภอ หรือเทศบาล เหมือนจัดเขตปลอดภัย (เซฟตี้ โซน) รวมทั้งจัดระเบียบ และตรวจตราการจัดการรถ
พร้อมทั้งให้นายอำเภอ เชิญชวนส่วนราชการที่ต้องซื้อสินค้าไว้ใช้ในแต่ละหน่วย เช่น โรงเรียนต้องซื้อวัสดุดิบไว้ประกอบอาหารสำหรับนักเรียน หรือหน่วยทหารจะต้องซื้อเสบียงนั้น ให้มาสั่งซื้อในวันพฤหัสบดี และนัดรับสิ่งของ หรืออาหารที่สั่งในวันศุกร์ รวมทั้งให้นายอำเภอประสานเทศบาล อบต. รวมทั้งภาคเอกชนจัดตลาดนัดจำหน่ายสินค้าในวันศุกร์ เพื่อทดแทนร้านค้าที่ยังปิด
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 คน รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดลงพื้นที่รับผิดชอบเป็นรายอำเภอ ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รับผิดชอบ อ.สะบ้าย้อย นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รับผิดชอบอำเภอเทพา นายพิรสิญจ์ พันธุ์เพ็ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด รับผิดชอบอำเภอจะนะ และนายสุรพล พนัสอำพล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รับผิดชอบอำเภอนาทวี เพื่อกำกับดูแลแต่ละอำเภอให้มีมาตรการเชิงรุก โดยให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับทหาร ตำรวจ ดูแลที่ตั้งของตลาดนัด หรือตลาดชุมชนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ให้นายอำเภอลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมอย่างทั่วถึง ในขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้รับผิดชอบพื้นที่อำเภอ ออกตรวจเยี่ยมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเพิ่มขวัญ และกำลังใจอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง
ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ได้มีจดหมายเปิดผนึกถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอ เพื่อสร้างความเข้าใจในสถานการณ์ อย่าได้หลงเชื่อการปล่อยข่าวของผู้ไม่หวังดีที่ไม่ให้ค้าขายในวันศุกร์ เพราะเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าไม่มีศาสนาใด และกฎหมายใดที่อนุญาต หรือส่งเสริมให้มีการฆ่าทำร้ายกัน รวมทั้งการห้ามทำมาหากินในวันศุกร์ด้วย
นอกจากนี้ ยังได้แจ้งไปถึงทุกครอบครัวในพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอ ว่า หากครอบครัวใดมีบุตรหลานที่กระทำความผิด หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ให้ติดต่อกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้โดยตรง หรือติดต่อนายอำเภอ ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงาน ทั้งทหาร ตำรวจ ตามรายชื่อ และหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้แจ้งไว้ในจดหมายเปิดผนึกแล้ว ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับบัญชาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะช่วยเหลือ และให้ความเป็นธรรมในทุกกรณี เช่น การจัดหาทนายความให้ หรือหาหนทางให้ได้รับการประกันตัว หรือปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างการพิจารณาคดี
หรือแม้แต่บุตรหลาน เยาวชนของครอบครัวใดที่ต้องการเรียนหนังสือ หรือฝึกอาชีพ ก็ให้มาติดต่อผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอำเภอแต่ละอำเภอ ซึ่งทุกคนยินดีที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ มาตรการต่างๆ ที่จังหวัดสงขลากำลังดำเนินการอยู่นี้ หวังเพียงให้ทุกคนได้ช่วยเหลือดูแลกัน ให้พี่น้องในทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ในพื้นที่ทั้ง 4 อำเภอ ได้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุขที่สุด