xs
xsm
sm
md
lg

นักโทษเครือข่ายแก๊งค้ายาคุกเมืองคอนหลบหนีขณะรักษาตัว รพ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แฟ้มภาพคดีอาวุธสงครามของผู้ต้องหาที่หลบหนีออกจากโรงพยาบาล
นครศรีธรรมราช - นักโทษคดีค้าอาวุธสงคราม ยาเสพติดพันขบวนการส่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำ แหกการควบคุมของเจ้าหน้าที่ขณะถูกนำไปรักษาตัวหลบหนีลอยนวล ด้านตำรวจเผย เป็นนักโทษสำคัญเตรียมแผนหนีอย่างดี

เหตุการณ์นักโทษรายสำคัญหลบหนีรายนี้ ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 03.00 น.วันนี้ (3 ต.ค.) ร.ต.อ.(หญิง) ทัศน์มน สังค์แก้ว พนักงานสอบสวนเวร สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากนายพงศ์วุฒิ เกษีสม เจ้าพนักงานราชทัณฑ์เรือนจำทุ่งสง ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง ว่า นายบุญเริง ระวัง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 518 ม.7 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช นักโทษในคดีความผิด พ.ร.บ.มีอาวุธปืนสงคราม และกระสุนปืนที่ใช้ในราชการไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และคดียาเสพติดรายสำคัญ ได้ตัดโซ่ตรวนหลบหนีออกจาก รพ.ทุ่งสง ขณะที่ถูกคุมตัวมารับการรักษาตัวเนื่องจากถูกนักโทษด้วยกันแทงได้รับบาดเจ็บ

หลังจากเข้าทำการตรวจสอบประวัติพบว่า นายบุญเริงนักโทษรายดังกล่าวนั้น เป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดเครือข่ายเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ถูกจับกุมตัวพร้อมอาวุธสงครามจำนวนมาก และถูกนำตัวฝากขังที่เรือนจำอำเภอทุ่งสง ซึ่งคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาของศาล และไม่อนุญาตให้มีการประกันตัวโดยเด็ดขาดเนื่องจากมีของกลางเป็นอาวุธสงครามร้ายแรงจำนวนมาก

ส่วนสาเหตุที่ถูกนำมารักษาตัวนั้น เมื่อวันที่ 17 ก.ย.55 ที่ผ่านมา นายบุญเริงมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับ นช.เอกรินทร์ แสงหิรัญ นักโทษคดีฆ่าคนตาย และถูก นช.เอกรินทร์ ใช้อาวุธมีดแทงนายบุญเริง กับ นช.รีด เส็นหมาน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางเรือนจำจึงส่งตัวทั้ง 2 ไปรักษาตัวที่ รพ.ทุ่งสง ที่ตึกอายุรกรรมชาย ต่อมา นช.รีด อาการดีจึงถูกส่งกลับเข้าจองจำยังเรือนจำทุ่งสงต่อไป

ขณะที่นายบุญเริงอาการยังไม่หายดี ยังคงนอนรักษาตัวต่อไปโดยมีนายพงศ์วุฒิ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำทุ่งสง เป็นเวรเฝ้า โดยมีการพันธนาการล่ามโซ่ตรวนอย่างแน่นหนากับเตียงผู้ป่วย ก่อนที่นายบุญเริงจะหลบหนีนั้น พบว่า นายพงศ์วุฒ ผู้คุมที่มาเฝ้าเผลอหลับ ทำให้นายบุญเริงใช้ใบเลื่อยเหล็กมาทำการเลื่อยโซ่ตรวนจนขาดแล้วหลบหนีออกจาก รพ.ทุ่งสง กว่าที่จะรู้ตัวนั้นได้ทิ้งเวลาราว 1 ชม.จนมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรายหนึ่งเปิดเผยว่า นายบุญเริง นั้นซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายยาบ้าของเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช หลังจากที่ถูกจับทางเครือข่ายใหญ่ของแก๊งยาเสพติดเกรงว่านายบุญเริงจะเปิดเผยข้อมูลให้แก่เจ้าหน้าที่จึงมีใบสั่งให้ฆ่าปิดปากนายบุญเริง จนได้มีเรื่องกันภายในเรือนจำทุ่งสง และนายบุญเริง ถูกแทงจนบาดเจ็บสาหัส โดยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด ซึ่งคาดว่าหากนายบุญเริงยังคงรักษาตัวใน รพ.ทุ่งสง ต่อไป อาจถูกตามมาฆ่าถึง รพ.ได้ จึงตัดสินใจตัดตรวนแล้วหลบหนีออกจาก รพ.เพื่อหนีเครือข่ายที่ตามล่าอยู่

ขณะที่ พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.สส.กก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทางเรือนจำได้ประสานในการติดตามล่านายบุญเริงนักโทษสำคัญรายนี้แล้ว โดยได้จัดทีมล่าออกติดตามสืบสวนหาแหล่งกบดาน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตำรวจนั้น สันนิษฐานว่านายบุญเริงได้เตรียมแผนที่จะหลบหนีอยู่แล้ว ด้วยการวางแผนก่อนให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทในเรือนจำ จากนั้นยอมที่จะถูกแทงเพื่อให้เรือนจำนำตัวมารักษายัง รพ.จากนั้นจึงอาศัยช่องว่างที่ญาติมาเยี่ยมส่งใบเลื่อยมาให้ซุกซ่อนไว้แล้วใช้จังหวะช่วงดึกที่ผู้คุมอ่อนล้าเผลอหลับเป็นช่วงตัดโซ่แล้วหลบหนี

สำหรับนายบุญเริงนักโทษรายนี้ ถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.55 ที่ผ่านมา โดย พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช สั่งการให้กำลังตำรวจเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 518 ม.7 ต.ร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ หลังสืบทราบว่า เป็นแหล่งซ่องสุมอาวุธสงครามจำนวนมาก โดยได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดทุ่งสง เลขที่ 97/2555 ลงวันที่ 21 มิถุนายน 2555 เข้าตรวจค้นบ้านของนายบุญเริง

และจากการตรวจค้น พบอาวุธปืน10 กระบอก และกระสุนจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วย เอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก อาก้า 2 กระบอก ปืนลูกซองยาว 5 นัด 1 กระบอก ปืนเอ็มซี 1 กระบอก ปืนขนาด 11 มม.1 กระบอก ปืนขนาด .357 จำนวน 2 กระบอก และปืนขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก ส่วนกระสุนได้แก่ เอ็ม 16 จำนวน 41 นัด แมกกระสุน 2 อัน กระสุนปืนอาก้า 41 นัด แมกกระสุน 2 อัน กระสุนปืนเอ็มซี 14 นัด ซองกระสุนปืนเอ็มซี 1 ซอง กระสุนปืน.357 จำนวน 49 นัด กระสุนปืน 11 มม.จำนวน 7 นัด กระสุนปืนลูกซองยาว 20 นัด กระสุนปืนคาร์บิน 15 นัด และกระสุนปืน .32 จำนวน 84 นัด นอกจากนี้ ยังตรวจพบถุงพลาสติกสำหรับใส่ยาไอซ์จำนวนมาก และเครื่องชั่งดิจิตอล 1 เครื่อง

นอกจากนั้น ยังพบเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์บังคับด้วยรีโมตคอนโทรลขนาดใหญ่ 2 ลำ ใช้สำหรับส่งยาเสพติดบินข้ามกำแพงเข้าไปในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช แต่การสอบปากคำนายบุญเริง บอกว่า เฮลิคอปเตอร์บังคับนั้นซื้อไว้เล่นเท่านั้นหลังตรวจจับสิ่งผิดกฎหมายได้จำนวนมากแล้ว เจ้าหน้าที่ยังตรวจค้นรอบๆ บริเวณบ้าน พบกองหินวางซ้อนผิดปกติ เมื่อรื้อก้อนหินออกพบถังพีวีซีขนาด 200 ลิตร ถูกฝังใต้ดิน ภายในถังพบอาวุธปืนคาร์บิน 2 กระบอก ระเบิดเอ็ม 67 จำนวน 1 ลูก ระเบิดเอ็ม 26 จำนวน 1 ลูก นอกจากนี้ ยังมีกระสุนปืนเอ็ม 16 คาร์บิน ลูกซองยาว และอื่นๆ รวมกว่า 500 นัด รวมอาวุธปืนทั้งหมด จำนวน 12 กระบอก

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดทรัพย์สินของนายบุญเริง รวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เช่น รถบรรทุกสิบล้อ 1 คัน รถแบ็กโฮ 1คัน รถเก๋งโตโยต้า รุ่นวีออส 1 คัน รถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ 1 คัน รถจักรยานยนต์จำนวนหนึ่ง และเงินสดในบัญชีเงินฝากของธนาคารต่างๆ ส่วนประวัติของนายบุญเริง พบว่า เคยต้องโทษคดีปล้นทรัพย์ ถูกคุมขังในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช อยู่ในแดน 6 มาหลายปี เพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 2553 และมีพฤติกรรมพัวพันเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำกลางนครศรีธรรมราช ลักลอบขายอาวุธปืนสงคราม และกระสุนปืนให้แก๊งเครือข่ายยาเสพติดเพื่อใช้ตามทวงหนี้ค่ายาเสพติด ซึ่งถือเป็นนักโทษรายสำคัญที่เจ้าหน้าที่ต้องการตัว





กำลังโหลดความคิดเห็น