นราธิวาส - นักเรียนหญิง ร.ร.ร่มเกล้า เหยื่อเหตุระเบิดรถบัสยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด อาการปลอดภัยแล้วทั้ง 2 คน เผยรู้สึกหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้าน ผอ.สพป.นราธิวาส เขต 1 ระบุต้องปรับแผน รปภ.รถรับส่ง นร. เชื่อเป้าหมายของคนร้ายคือเจ้าหน้าที่
เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (27 ก.ย.) นายอรรถสิทธิ์ รัตนแคล้ว ผอ.สพป.นราธิวาส เขต 1 เดินทางเข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ ด.ญ.สีตีนูรียะ บากา อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3/2 โรงเรียนร่มเกล้า และ น.ส.นาเดีย เจ๊ะฮามะ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5/2 โรงเรียนร่มเกล้า ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณคอสะพานในหมู่บ้านบูเก๊ะปาลัส หมู่ 4 ต.ยี่งอ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ปากทางเข้าโรงเรียนร่มเกล้า เพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธิน ชุด รปภ.ครู สังกัดร้อยปืนเล็กที่ 4 ฉก.นราธิวาส 32 ที่ขับรถยนต์กระบะนำหน้ารถบัสรับส่งนักเรียน แต่พลาดเป้าถูกรถบัสของโรงเรียนร่มเกล้าทำให้นักเรียนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ล่าสุด อาการบาดเจ็บของ ด.ญ.สีตีนูรียะ บากา นักเรียนชั้น ม.3/2 ยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณแขนจนทำให้กระดูกแตก ส่วน น.ส.นาเดีย เจ๊ะฮามะ นักเรียนชั้น ม.5/2 นั้น อาการปลอดภัยแล้ว
ด.ญ.สีตีนูรียะ บากา เหยื่อที่ถูกสะเก็ดระเบิด เปิดเผยด้วยสีหน้าที่แสดงอาการความเจ็บปวดว่า ขณะเกิดเหตุ ตนและเพื่อนนักเรียนร่วม 100 ชีวิตอยู่ในรถบัสคันเกิดเหตุ โดยตนนั่งอยู่บริเวณด้านหน้า และมีรถเจ้าหน้าที่ทหารนำขบวนรักษาความปลอดภัย และเมื่อถึงทางเลี้ยวจะเข้าไปทางโรงเรียน เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อคนร้ายจุดชนวนระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จนนักเรียนรุ่นพี่ได้ส่งเสียงตะโกนให้หมอบลงกับพื้น และมีเสียงเด็กนักเรียนร้องไห้ เนื่องจากตกจากเก้าอี้ และหวาดผวา ขณะเดียวกัน ตนถูกสะเก็ดระเบิดเลือดสาด และมองไปที่แขนมีแผลเหวอะหวะ จากนั้นก็หมดสติและสลบไป โดยทราบว่ามีครู และเพื่อนนักเรียนอุ้มตัวมาส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลยี่งอ แต่อาการสาหัสจึงนำส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เนื่องจากกระดูกแขนแตก และเสียเลือดมาก เพื่อทำการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน
ด.ญ.สีตีนูรียะ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงติดตา และทำให้เกิดความหวาดกลัว แม้ว่าจะมีกำลังใจดีขึ้นเนื่องจากมีผู้มาเยี่ยมให้กำลังใจอย่างไม่ขาดสาย และหากอาการหายปกติเมื่อไรตนจะกลับไปตั้งใจเรียน
ด้าน นายอรรถสิทธิ์ รัตนแคล้ว ผอ.สพป.นราธิวาส เขต 1 เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่เด็กซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องมาบาดเจ็บ และเมื่อเกิดเหตุแล้วทุกฝ่ายก็ต้องมาดูแลเด็ก ส่วนในเรื่องของทุนการศึกษาต้องดูว่าอยู่ในขั้นบาดเจ็บสาหัสหรือไม่ ซึ่งจะมีทุนการศึกษารายปีต่อเนื่องจนจบปริญญาตรี เรื่องที่เกิดขึ้นดูจากสถานการณ์แล้วเป้าหมายของคนร้ายไม่ใช่กลุ่มนักเรียน เพราะในช่วงเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ทหารนำหน้า และรถบัสรับส่งนักเรียนขับตามหลัง น่าจะเกิดจากความผิดพลาดของคนร้าย ทำให้เด็กนักเรียนรับเคราะห์ ตนเคยพูดกับครูว่าเราไปพร้อมกับหน่วยกำลังต้องให้หน่วยกำลังตามหลัง ซึ่งไม่ต้องมาเสี่ยงกับถูกลูกหลง หลังจากนี้ ต้องมีการปรับแผนให้รถรับส่งนักเรียน และคณะครูนำหน้ารถยนต์ทหารที่ รปภ.
ขณะที่นางเจะรอฮานิง มามะ อายุ 33 ปี น้าสาวของ ด.ญ.สีตีนูรียะ กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียใจ เพราะครอบครัวฐานะยากจนอยู่แล้ว พ่อแม่ของหลานไม่อยู่ในเมืองไทย ต้องไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้โทรศัพท์ไปบอกพ่อแม่ของหลานแล้ว ซึ่งทั้งคู่ตกใจมาก และอยู่ระหว่างการเดินทางกลับ ขณะนี้คงได้แต่ทำใจ และให้กำลังใจเท่านั้น
ด้านนางสุนีนา สะแลแม ครูโรงเรียนร่มเกล้า เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นตอนแรกก็เฉยๆ แต่พอลูกศิษย์ของตนเองประสบเหตุก็เกิดความกลัวขึ้นมาว่าไม่รู้จะเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อใด พูดได้อย่างเดียวว่ากลัว และผวา สิ่งที่อยากได้ตอนนี้ ไม่ได้หวังอะไรมาก ถ้ารัฐทำได้ หรือผู้ดูแลความปลอดภัยทำได้ หัวใจสำคัญที่อยากได้ในพื้นที่นี้คือ ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน ที่ไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่หวาดผวา และหวาดระแวงตลอดเวลา
ส่วนบรรยากาศที่โรงเรียนร่มเกล้านั้น ล่าสุด พบว่าขณะนี้ได้มีการประกาศปิดการเรียนการสอนอย่างไม่มีกำหนดแล้ว เนื่องจากคณะครู และนักเรียนหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งเมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา นางวรุณ ทองเอียด อดีต ผช.ผอ.โรงเรียนร่มเกล้า ก็ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต พร้อมกับนายสกุล ทองเอียด อดีต ผอ.โรงเรียนร่มเกล้า ที่ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณปากทางเข้าโรงเรียนร่มเกล้าเช่นกัน
