ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - 4 คนร้ายแต่งชุดคล้ายทหารพราน ตั้งด่านปล้นรถ เจ้าหน้าที่ตามจับได้ 1 คน ขณะขับไปจอดทิ้งในป่าพรุ ส่วนเจ้าของยังล่องหน เผยถูกจับปิดตาพร้อมเพื่อนปล่อยทิ้งที่บ้านตันหยงลิมอ ตำรวจทหารระดมกำลังตามหา คาดเกี่ยวข้องกับกลุ่มป่วนใต้
ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) รายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 23 กันยายน 2555 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 48 (ชป.ฉก.ทพ.48) สนธิกำลังร่วมกับ ชป.ฉก.ทพ.46 ชุดสืบสวนคดีสำคัญศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ (ศชต.) และตำรวจสถานีตำรวจภูธร (สภ.)ตากใบ จ.นราธิวาส เข้าควบคุมตัวนายอับดุลฮาดี อับดุลเลาะห์ ยังไม่ทราบอายุ และที่อยู่ ในป่าพรุบ้านบึงฉลาม หมู่ที่ 10 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นจึงนำตัวมาซักถาม ณ บก.ฉก.ทพ.46 เพื่อการขยายผลการปฏิบัติต่อไป
ทั้งนี้ นายอับดุลฮาดี ได้ขับรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ ZX สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎผ 4677 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของ นางอุดมลักษณ์ ชาน อายุ 41 ปี ตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วจอดทิ้งไว้ก่อนหนีเข้าไปในป่าพรุ โดยในการสนธิกำลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ขอรับการสนับสนุนเครื่องบินตรวจการณ์ติดกล้องจาก กลล.ทอ.ฉก.9 ขึ้นบินตรวจการณ์ด้วย
การควบคุมตัว นายอับดุลฮาดี เกิดขึ้นหลังจาก ฉก.นราธิวาส 36 แจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2555 น้องสาวของนางอุดมลักษณ์เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเจาะไอร้อง จ.นราธิวาสว่า นางอุดมลักษณ์ ได้ขับขี่รถคันดังกล่าวออกจากบ้านพักไปรับผู้หญิงชื่อนา ที่สถานีขนส่งจังหวัดนราธิวาส และพากันไปหาสมาชิก และเก็บเงินจากสมาชิกที่บ้านป่าไผ่ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส แล้วไปที่บ้านเจาะเกาะ หมู่ที่ 1 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง เมื่อมาถึงบริเวณทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านกือรง ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ถูกคนร้าย 4 คน แต่งกายชุดทหารพรานสีดำ มีอาวุธปืนสงครามครบมือเรียกให้หยุดรถ และแจ้งว่าสงสัยมียาเสพติดอยู่ภายในรถ จึงขอตรวจค้น และลดกระจกลง
จากนั้น คนร้ายได้ดึงกุญแจรถไป และบอกให้นางอุดมลักษณ์ และผู้หญิงชื่อนาไปนั่งด้านหลัง โดยมีคนร้าย 2 คน นั่งประกบทั้งสองข้าง จากนั้นคนร้ายนำผ้าสีดำมาปิดตาทั้งสองคน แล้วขับรถพาทั้งสองคนไปที่บ้านตันหยงลิมอ จากนั้นคนร้าย 1 คน ได้ควบคุมตัวนางอุดมลักษณ์ ลงจากรถไป โดยไม่ทราบจุดมุ่งหมาย ส่วนคนร้ายที่เหลือได้ขับรถพาผู้หญิงชื่อนาไปปล่อยไว้ที่บ้านยะโง๊ะ ต.ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส จากนั้นไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมา วันที่ 22 กันยายน 2555 ชป.ฉก.ทพ.48 ได้ตรวจพบรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวขับไปทาง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่จึงขับรถไล่ติดตามจนสามารถควบคุมตัวนายอับดุลฮาดีได้ดังกล่าว
พ.ต.อ.เสน่ห์ จรรยาสถิต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (ผกก.สภ.) ตากใบ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบตัวนางอุดมลักษณ์ แต่คาดว่าน่าจะยังอยู่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่กำลังระดมค้นหาอยู่ ส่วนผลการสอบสวนนายอับดุลฮาดี ยังเปิดเผยไม่ได้ เนื่องจากยังตามหาตัวนางอุดมลักษณ์ยังไม่เจอ
จากการตรวจสอบประวัตินายอับดุลฮาดี พบว่า เป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่ และมีหมายจับติดตัวอยู่ แต่ยังต้องตรวจสอบว่าเป็นหมายจับคดีอาญา หรือหมายจับตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) การโจรกรรมครั้งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อความไม่สงบมากกว่าการโจรกรรมรถยนต์ธรรมดา
กองบรรณาธิการ โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ (DSJ)
ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) รายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 23 กันยายน 2555 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 48 (ชป.ฉก.ทพ.48) สนธิกำลังร่วมกับ ชป.ฉก.ทพ.46 ชุดสืบสวนคดีสำคัญศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ (ศชต.) และตำรวจสถานีตำรวจภูธร (สภ.)ตากใบ จ.นราธิวาส เข้าควบคุมตัวนายอับดุลฮาดี อับดุลเลาะห์ ยังไม่ทราบอายุ และที่อยู่ ในป่าพรุบ้านบึงฉลาม หมู่ที่ 10 ต.ไพรวัน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นจึงนำตัวมาซักถาม ณ บก.ฉก.ทพ.46 เพื่อการขยายผลการปฏิบัติต่อไป
ทั้งนี้ นายอับดุลฮาดี ได้ขับรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ ZX สีขาว หมายเลขทะเบียน ฎผ 4677 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของ นางอุดมลักษณ์ ชาน อายุ 41 ปี ตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วจอดทิ้งไว้ก่อนหนีเข้าไปในป่าพรุ โดยในการสนธิกำลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ขอรับการสนับสนุนเครื่องบินตรวจการณ์ติดกล้องจาก กลล.ทอ.ฉก.9 ขึ้นบินตรวจการณ์ด้วย
การควบคุมตัว นายอับดุลฮาดี เกิดขึ้นหลังจาก ฉก.นราธิวาส 36 แจ้งว่า เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2555 น้องสาวของนางอุดมลักษณ์เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเจาะไอร้อง จ.นราธิวาสว่า นางอุดมลักษณ์ ได้ขับขี่รถคันดังกล่าวออกจากบ้านพักไปรับผู้หญิงชื่อนา ที่สถานีขนส่งจังหวัดนราธิวาส และพากันไปหาสมาชิก และเก็บเงินจากสมาชิกที่บ้านป่าไผ่ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส แล้วไปที่บ้านเจาะเกาะ หมู่ที่ 1 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง เมื่อมาถึงบริเวณทางแยกเลี้ยวซ้ายเข้าบ้านกือรง ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง ถูกคนร้าย 4 คน แต่งกายชุดทหารพรานสีดำ มีอาวุธปืนสงครามครบมือเรียกให้หยุดรถ และแจ้งว่าสงสัยมียาเสพติดอยู่ภายในรถ จึงขอตรวจค้น และลดกระจกลง
จากนั้น คนร้ายได้ดึงกุญแจรถไป และบอกให้นางอุดมลักษณ์ และผู้หญิงชื่อนาไปนั่งด้านหลัง โดยมีคนร้าย 2 คน นั่งประกบทั้งสองข้าง จากนั้นคนร้ายนำผ้าสีดำมาปิดตาทั้งสองคน แล้วขับรถพาทั้งสองคนไปที่บ้านตันหยงลิมอ จากนั้นคนร้าย 1 คน ได้ควบคุมตัวนางอุดมลักษณ์ ลงจากรถไป โดยไม่ทราบจุดมุ่งหมาย ส่วนคนร้ายที่เหลือได้ขับรถพาผู้หญิงชื่อนาไปปล่อยไว้ที่บ้านยะโง๊ะ ต.ลุโบะบือซา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส จากนั้นไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ต่อมา วันที่ 22 กันยายน 2555 ชป.ฉก.ทพ.48 ได้ตรวจพบรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวขับไปทาง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่จึงขับรถไล่ติดตามจนสามารถควบคุมตัวนายอับดุลฮาดีได้ดังกล่าว
พ.ต.อ.เสน่ห์ จรรยาสถิต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธร (ผกก.สภ.) ตากใบ เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่พบตัวนางอุดมลักษณ์ แต่คาดว่าน่าจะยังอยู่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เจ้าหน้าที่กำลังระดมค้นหาอยู่ ส่วนผลการสอบสวนนายอับดุลฮาดี ยังเปิดเผยไม่ได้ เนื่องจากยังตามหาตัวนางอุดมลักษณ์ยังไม่เจอ
จากการตรวจสอบประวัตินายอับดุลฮาดี พบว่า เป็นแนวร่วมก่อความไม่สงบในพื้นที่ และมีหมายจับติดตัวอยู่ แต่ยังต้องตรวจสอบว่าเป็นหมายจับคดีอาญา หรือหมายจับตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) การโจรกรรมครั้งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อความไม่สงบมากกว่าการโจรกรรมรถยนต์ธรรมดา
กองบรรณาธิการ โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ (DSJ)