ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูเก็ต นำตัวผู้ต้องหาปล้นทองทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังเข้ามอบตัว ขณะที่ผู้ต้องหาอีก 1 คนที่ยังหลบหนี ผู้การฯ สั่งชุดสืบสวนไล่ล่า ระบุ ทราบเบาะแสกบดานแล้ว ด้านเจ้าของร้านยืนยันผู้ต้องหาเคยเข้าก่อเหตุใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าเข้ามาก่อเหตุก่อนหน้านี้แล้วครั้งหนึ่ง
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันนี้ (21 ก.ย.) พล.ต.ต.ชนสิษฏ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธ์ สิริคง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน นำตัวนายโกศล ชาวมอญ ผู้ต้องหาก่อเหตุปล้นทองร้านทองยงชวน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังเดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตวันนี้
สำหรับบรรยากาศการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้ มีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมามุงดูการทำแผนเป็นจำนวน ซึ่งการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น เริ่มจากจุดที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้าน โดยมีนายโกศลเป็นคนขับ หลังจากนั้น นายเมฆได้เดินเข้าในร้านก่อน ส่วนนายโกศลเดินตามหลังเข้าไป เมื่อเข้าไปถึงในร้าน นายโกศลก็ได้ชักอาวุธออกมา และจี้ไปที่เจ้าของร้านพร้อมบอกว่า “นี่คือการปล้น” หลังจากนั้น นายเมฆผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีก็ได้ใช้ค้อนที่เตรียมมาทุบกระจกตู้ใส่ทองจนแตก และใช้มือชกกระจกตู้ และกวาดทองใส่ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน เมื่อได้ทองแล้วนายโกศลได้กระชากผ้ากันเปื้อนที่ใส่ทองมาถือไว้เอง และขับรถออกจากร้านโดยมีนายเมฆนั่งซ้อนท้ายไปทางแพสินไพบูลย์ชัย
หลังจากเอารถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของแพดังกล่าว ทั้ง 2 คนได้เดินไปด้านหลังอาคารที่ติดกับทะเล และเข้าไปในห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และนำปืน เสื้อ กางเกง และผ้ากันเปื้อนซุกไว้ริมเขื่อนในทะเล หลังจากนั้น วิ่งออกจากแพปลาดังกล่าว และโบกรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปส่งโดยแยกย้ายกันหลบหนี อย่างไรก็ตาม ขณะที่นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณแพปลา ได้มีชาวบ้านบางคนออกมาตะโกนด่าทอผู้ต้องหาด้วย โดยกล่าวว่า “ทำให้แพเสียชื่อเสียง ดีแล้วที่เข้ามามอบตัว” ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันตัวผู้ต้องหาออกมาขึ้นรถเพื่อนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป
ขณะที่ พล.ต.ต.ชนสิษฏ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีกคนที่ยังหลบหนีนั้น ขณะนี้พอจะได้เบาะแสแหล่งกบดานของคนร้ายแล้ว และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว ส่วนการเฝ้าระวังป้องกันร้านทองซึ่งเป็นร้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงนั้นในส่วนของตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตก็ได้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้ามาดูแลแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเจ้าของร้านทองเองก็จะต้องเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ร้านทองตัวเองด้วย ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้เรียกประชุมร้านทองในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมาแล้ว และได้แนะนำให้ร้านทองเพิ่มมาตรการในการป้องกันทรัพย์สินโดยการติดฟิล์มที่กระจกตู้ใส่ทอง เพราะถ้ากระจกถูกทุบทำลายก็จะไม่แตกกระจายคนที่ทำลายก็ไม่สามารถที่จะใช้มือล้วงลงไปหยิบทองภายในตู้ได้
เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.วันนี้ (21 ก.ย.) พล.ต.ต.ชนสิษฏ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธ์ สิริคง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน นำตัวนายโกศล ชาวมอญ ผู้ต้องหาก่อเหตุปล้นทองร้านทองยงชวน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังเดินทางเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตวันนี้
สำหรับบรรยากาศการทำแผนประกอบคำรับสารภาพในครั้งนี้ มีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมามุงดูการทำแผนเป็นจำนวน ซึ่งการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น เริ่มจากจุดที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้าน โดยมีนายโกศลเป็นคนขับ หลังจากนั้น นายเมฆได้เดินเข้าในร้านก่อน ส่วนนายโกศลเดินตามหลังเข้าไป เมื่อเข้าไปถึงในร้าน นายโกศลก็ได้ชักอาวุธออกมา และจี้ไปที่เจ้าของร้านพร้อมบอกว่า “นี่คือการปล้น” หลังจากนั้น นายเมฆผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีก็ได้ใช้ค้อนที่เตรียมมาทุบกระจกตู้ใส่ทองจนแตก และใช้มือชกกระจกตู้ และกวาดทองใส่ในกระเป๋าผ้ากันเปื้อน เมื่อได้ทองแล้วนายโกศลได้กระชากผ้ากันเปื้อนที่ใส่ทองมาถือไว้เอง และขับรถออกจากร้านโดยมีนายเมฆนั่งซ้อนท้ายไปทางแพสินไพบูลย์ชัย
หลังจากเอารถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถของแพดังกล่าว ทั้ง 2 คนได้เดินไปด้านหลังอาคารที่ติดกับทะเล และเข้าไปในห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และนำปืน เสื้อ กางเกง และผ้ากันเปื้อนซุกไว้ริมเขื่อนในทะเล หลังจากนั้น วิ่งออกจากแพปลาดังกล่าว และโบกรถจักรยานยนต์รับจ้างให้ไปส่งโดยแยกย้ายกันหลบหนี อย่างไรก็ตาม ขณะที่นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณแพปลา ได้มีชาวบ้านบางคนออกมาตะโกนด่าทอผู้ต้องหาด้วย โดยกล่าวว่า “ทำให้แพเสียชื่อเสียง ดีแล้วที่เข้ามามอบตัว” ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องกันตัวผู้ต้องหาออกมาขึ้นรถเพื่อนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป
ขณะที่ พล.ต.ต.ชนสิษฏ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับการติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีกคนที่ยังหลบหนีนั้น ขณะนี้พอจะได้เบาะแสแหล่งกบดานของคนร้ายแล้ว และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว ส่วนการเฝ้าระวังป้องกันร้านทองซึ่งเป็นร้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงนั้นในส่วนของตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตก็ได้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้ามาดูแลแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเจ้าของร้านทองเองก็จะต้องเพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ร้านทองตัวเองด้วย ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้เรียกประชุมร้านทองในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตมาแล้ว และได้แนะนำให้ร้านทองเพิ่มมาตรการในการป้องกันทรัพย์สินโดยการติดฟิล์มที่กระจกตู้ใส่ทอง เพราะถ้ากระจกถูกทุบทำลายก็จะไม่แตกกระจายคนที่ทำลายก็ไม่สามารถที่จะใช้มือล้วงลงไปหยิบทองภายในตู้ได้
