ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โจรปล้นทอง “ร้านทองยงชวน” สิ้นท่าเข้ามอบตัวต่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว หลังทนแรงกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว อ้างเหตุมอบตัวเพราะต้องการเจอหน้าเมีย และลูก
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันนี้ (21 ก.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ์ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.สส.ภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน สารวัตรสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันสอบปากคำ นายโกศล หรือวาน ชาวมอญ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ก่อเหตุปล้นร้านทองยงชวน ในหมู่บ้านการเคหะรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2555 ที่ผ่านมา หลังนายโกศล ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ในช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ ภายหลังจากก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังปิดล้อม และกดดันผู้ต้องหาอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม การเดินทางเข้ามามอบตัวของนายโกศลในครั้งนี้ นายโกศลได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตเอง โดยเข้ามาในสภาพสวมเสื้อยืดสีขาว แต่เต็มไปด้วยคราบ สวมกางเกงขาสามส่วนสีเทา สวมหมวกสีครีม พร้อมถือเสื้อคลุมแบบผู้หญิงสีม่วง 1 ตัว ขนมต่างๆ จำนวน 1 ถุง และโลชั่นกันยุง 1 ขวดมาด้วย และก่อนที่เข้ามามอบตัวได้โทรศัพท์มาแจ้งที่ 191 ว่าจะขอเข้ามอบตัว ภายหลังเดินทางมาถึงสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าห้องเพื่อสอบปากคำทันที
จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายโกศลให้การว่า ได้ร่วมกับนายเมฆ ผู้ต้องหาอีกหนึ่งคนที่ยังหลบหนี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท วางแผนเข้าไปก่อเหตุปล้นร้านทองยงชวน เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา เมื่อได้ทองคำรูปพรรณมาแล้วได้แบ่งให้นายเมฆ 1 กำมือ ส่วนตัวเองได้นำทองคำทั้งหมดไปมอบให้แก่นางมูซา ภรรยาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต และเก็บไว้ที่ตัวเองหนึ่งเส้นเท่านั้น เพื่อใช้กรณีฉุกเฉิน ซึ่งหลังจากแบ่งทองกันแล้วก็แยกกันหลบหนี
โดยตนได้หลบหนีไปอยู่ในป่าใกล้น้ำตกกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เป็นเวลา 2 วัน และเมื่อวานตอนเย็น ได้เดินออกจากป่า และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่เกาะสิเหร่ ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ (21 ก.ย.) ได้ดูทีวีที่โรงแรมเห็นข่าวเมียถูกจับ จึงได้ตัดสินเข้ามามอบตัว เพราะต้องการที่จะพบลูกเมียเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากเมียเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วซึ่งอาจจะอยู่ได้ไม่นานแล้ว และอยากขอร้องตำรวจขอพบเมีย และลูกเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อบอกว่ารักเขาคนเดียว และวันนี้ตนก็ได้ซื้อขนมมาฝากภรรยากับลูกด้วย
นายโกศล กล่าวต่อไปว่า สาเหตุการก่อเหตุในครั้งนี้เพราะต้องการนำเงินไปผ่าตัดโรคลิ้นหัวใจให้เมีย และใช้หนี้ เพราะก่อนหน้านี้ ไปเล่นสนุกเกอร์เสียประมาณ 400,000 บาท และไปยืมเงินมาอีกส่วนหนึ่ง ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้ภรรยาตนไม่ทราบเรื่อง ขณะที่นายเมฆที่ร่วมกันปล้นนั้น ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ภูเก็ตแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ 2 วัน นายเมฆได้โทรศัพท์มาบอกตนว่า รอดจากการถูกตำรวจจับแล้วเพราะตำรวจที่ชุมพรเรียกตรวจแล้วก็ปล่อยตัวไป หลังจากนั้นไม่ได้ติดต่อกับนายเมฆอีกเลยเพราะโทรศัพท์แบตเตอรี่หมด
นายโกศล ยังได้กล่าวต่อไปว่า ตนทราบว่าเมื่อวาน (20 ก.ย.) มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมที่บริเวณน้ำตกกะทู้ ซึ่งเป็นบริเวณที่ตนหลบหนีอยู่ เพราะในช่วงเที่ยงที่ออกไปขอข้าวคนงานพม่ากินมีคนบอกว่ามีตำรวจอยู่เต็มไปหมด ตนก็ได้เดินกลับเข้าป่าไป หลังจากนั้น ก็เดินออกจากป่าในช่วงเย็น และเข้าพักที่โรงแรมก่อนที่จะเดินทางมามอบตัววันนี้
ขณะที่การติดตามจับกุมนายเมฆ ผู้ต้องหาอีกคนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายโกศล มาสอบสวนขยายผล พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างพื้นที่ติดตามจับกุมแล้ว
เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันนี้ (21 ก.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.พีรยุทธ์ การะเจดีย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.สส.ภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.ประวิทย์ เอ่งฉ้วน สารวัตรสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันสอบปากคำ นายโกศล หรือวาน ชาวมอญ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ก่อเหตุปล้นร้านทองยงชวน ในหมู่บ้านการเคหะรัษฎา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 ก.ย.2555 ที่ผ่านมา หลังนายโกศล ได้เดินทางเข้ามอบตัวที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ในช่วงเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ ภายหลังจากก่อนหน้านี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังปิดล้อม และกดดันผู้ต้องหาอย่างหนัก
อย่างไรก็ตาม การเดินทางเข้ามามอบตัวของนายโกศลในครั้งนี้ นายโกศลได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ตเอง โดยเข้ามาในสภาพสวมเสื้อยืดสีขาว แต่เต็มไปด้วยคราบ สวมกางเกงขาสามส่วนสีเทา สวมหมวกสีครีม พร้อมถือเสื้อคลุมแบบผู้หญิงสีม่วง 1 ตัว ขนมต่างๆ จำนวน 1 ถุง และโลชั่นกันยุง 1 ขวดมาด้วย และก่อนที่เข้ามามอบตัวได้โทรศัพท์มาแจ้งที่ 191 ว่าจะขอเข้ามอบตัว ภายหลังเดินทางมาถึงสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าห้องเพื่อสอบปากคำทันที
จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายโกศลให้การว่า ได้ร่วมกับนายเมฆ ผู้ต้องหาอีกหนึ่งคนที่ยังหลบหนี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท วางแผนเข้าไปก่อเหตุปล้นร้านทองยงชวน เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา เมื่อได้ทองคำรูปพรรณมาแล้วได้แบ่งให้นายเมฆ 1 กำมือ ส่วนตัวเองได้นำทองคำทั้งหมดไปมอบให้แก่นางมูซา ภรรยาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารหมอชิต และเก็บไว้ที่ตัวเองหนึ่งเส้นเท่านั้น เพื่อใช้กรณีฉุกเฉิน ซึ่งหลังจากแบ่งทองกันแล้วก็แยกกันหลบหนี
โดยตนได้หลบหนีไปอยู่ในป่าใกล้น้ำตกกะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เป็นเวลา 2 วัน และเมื่อวานตอนเย็น ได้เดินออกจากป่า และเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่เกาะสิเหร่ ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ (21 ก.ย.) ได้ดูทีวีที่โรงแรมเห็นข่าวเมียถูกจับ จึงได้ตัดสินเข้ามามอบตัว เพราะต้องการที่จะพบลูกเมียเป็นครั้งสุดท้าย เนื่องจากเมียเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วซึ่งอาจจะอยู่ได้ไม่นานแล้ว และอยากขอร้องตำรวจขอพบเมีย และลูกเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อบอกว่ารักเขาคนเดียว และวันนี้ตนก็ได้ซื้อขนมมาฝากภรรยากับลูกด้วย
นายโกศล กล่าวต่อไปว่า สาเหตุการก่อเหตุในครั้งนี้เพราะต้องการนำเงินไปผ่าตัดโรคลิ้นหัวใจให้เมีย และใช้หนี้ เพราะก่อนหน้านี้ ไปเล่นสนุกเกอร์เสียประมาณ 400,000 บาท และไปยืมเงินมาอีกส่วนหนึ่ง ส่วนการก่อเหตุในครั้งนี้ภรรยาตนไม่ทราบเรื่อง ขณะที่นายเมฆที่ร่วมกันปล้นนั้น ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ภูเก็ตแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ 2 วัน นายเมฆได้โทรศัพท์มาบอกตนว่า รอดจากการถูกตำรวจจับแล้วเพราะตำรวจที่ชุมพรเรียกตรวจแล้วก็ปล่อยตัวไป หลังจากนั้นไม่ได้ติดต่อกับนายเมฆอีกเลยเพราะโทรศัพท์แบตเตอรี่หมด
นายโกศล ยังได้กล่าวต่อไปว่า ตนทราบว่าเมื่อวาน (20 ก.ย.) มีเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมที่บริเวณน้ำตกกะทู้ ซึ่งเป็นบริเวณที่ตนหลบหนีอยู่ เพราะในช่วงเที่ยงที่ออกไปขอข้าวคนงานพม่ากินมีคนบอกว่ามีตำรวจอยู่เต็มไปหมด ตนก็ได้เดินกลับเข้าป่าไป หลังจากนั้น ก็เดินออกจากป่าในช่วงเย็น และเข้าพักที่โรงแรมก่อนที่จะเดินทางมามอบตัววันนี้
ขณะที่การติดตามจับกุมนายเมฆ ผู้ต้องหาอีกคนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายโกศล มาสอบสวนขยายผล พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างพื้นที่ติดตามจับกุมแล้ว
