อำเภอเมืองภูเก็ตฝึกอบรมอาสาต้นแบบประชาธิปไตย

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - อำเภอเมืองภูเก็ตจัดโครงการฝึกอบรมอาสาสมัครต้นแบบประชาธิปไตย

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (20 ก.ย.) ที่ห้องประชุมกาญจนาภิเษก ที่ว่าการอำเภอเมืองภูเก็ต นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมตามโครงการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมี นายสุวัฒน์ บุบผะโพธิ์ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองภูเก็ต หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน และประชาชนทั่วไปเข้าร่วม

นายไชยวัฒน์ เทพี ปลัดจังหวัดภูเก็ตกล่าวว่า โครงการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นนโยบายของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ที่จัดทำขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการในปีแรก โดยมุ่งเน้นการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาติ และฟื้นฟูประชาธิปไตย โดยการเสริมสร้างความเข้าใจร่วมกันของประชาชนในชาติ ให้เกิดความสมานสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และยึดมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อไปอีกว่า จากสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน ผู้คนในประเทศมีความแตกแยกทางความคิด แบ่งพวกแบบภาค แบ่งสีค่อนข้างชัดเจน ซึ่งสร้างความสับสนให้แก่ประชาชนทั่วไป โดยที่จริงแล้ว ชาติไทยมีสีเดียว คือ สีธงไตรรงค์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ตัวแทนของสถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ร้อยรัดหัวใจของคนไทยทั้งชาติ ฉะนั้น หน้าที่ของพลเมือง ชาติไทยก็คือ การดำรงไว้ซึ่งสถาบันสำคัญชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งทุกคนจะต้องรักษาไว้ด้วยชีวิต

สำหรับโครงการส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข มีวัตถุประสงค์สำคัญในการสร้างอาสาสมัครต้นแบบประชาธิปไตย ให้มีความรู้ ความเข้าใจในวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตย โดยเน้นหลักการสำคัญ 4 ด้าน คือ 1.การยึดหลักกฎหมาย ความมีเหตุผล และสันติวิธี 2.การปฏิบัติตามเสียงข้างมาก และรับฟังเสียงข้างน้อย 3.ความรับผิดชอบและเสียสละเพื่อส่วนรวม 4.การมีส่วนร่วมกิจกรรมทางสังคมและการเมือง

นายไชยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อาสาสมัครต้นแบบประชาธิปไตยที่เข้ามาฝึกอบรมในวันนี้ จะสามารถเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนส่งเสริมวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยระดับหมู่บ้าน และผลักดันให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกิดความตระหนัก เห็นคุณค่า และนำหลักการวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องต่อไป