กระบี่ - ฝนตกคลื่นลมทะเลแรง ทำราคาอาหารทะเล จ.กระบี่ พุ่ง เนื่องจากเรือประมงจับสัตว์น้ำได้น้อย สัตว์น้ำบางชนิดเริ่มขาดตลาด ประธานชมรมโซนอาหารทะเลยอมรับช่วงนี้ราคาอาหารทะเลไม่แน่นอน แต่มีให้เลือกหลากหลาย เชื่อหลังมรสุมก็จะกลับสู่ภาวะปกติ
วันนี้ (19 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้สำรวจราคาอาหารทะเล ภายในตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ พบว่า ราคาสัตว์น้ำมีการปรับราคาสูงขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากเรือประมงจับสัตว์น้ำได้น้อยลง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ฝนตกหนักคลื่นลมแรง ทำให้เป็นอุปสรรคในการทำการประมง โดยราคาปลาที่ลูกค้านิยมบริโภค เช่น ปลาทู จากเดิมราคากิโลกรัมละ 80 บาท ปรับราคาขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 90 บาท ปลาลัง จากเดิมกิโลกรัมละ 90 บาท ปรับราคาขึ้นมา กิโลกรัมละ 100 บาท
กุ้งหัวเรียว จากเดิมกิโลกรัมละ 60 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท กุ้งแชบ๊วย จากเดิมกิโลกรัมละ 250 ขึ้นเป็นกิโลกรัม 300-350 บาท ปลาเก๋าจากเดิมกิโลกรัมละ 230 บาท ปรับขึ้นราคากิโลกรัมละ 250 บาท ปลาสำลี กิโลกรัมละ 280 บาท จากเดิมกก.ละ150 บาท
นางฮาวา ช่างเรือ ประธานชมรมอาหารทะเลตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ กล่าวว่า ราคาสัตว์น้ำทะเลช่วงนี้จะไม่คงที่ มีขึ้นบ้างลงบ้าง อย่างช่วงนี้เกิดฝนตกและมีมรสุมบ่อย ทำให้ชาวเรือประมงจับสัตว์น้ำได้น้อยลง ส่วนเรือเล็กก็ต้องงดออกจับปลา ส่งผลทำให้สัตว์น้ำบางชนิดเริ่มขาดตลาด เช่น ปลาลัง แม่ค้าบางรายก็ต้องไปหาซื้อมาจากตลาดมหาชัยบ้าง บางส่วนก็ไปซื้อมาจากจังหวัดระนองบ้าง เพื่อมาขายให้ลูกค้าประจำ ทำให้ราคาจะสูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นไปตามต้นทุนที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากคลื่นลมสงบ ราคาสัตว์น้ำก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และถึงแม้สัตว์น้ำบางชนิดขาดตลาด แต่ลูกค้าก็สามารถเลือกซื้อสัตว์น้ำอื่นๆ ที่ราคาถูกกว่าได้ เพราะในตลาดมหาราชมีแผงขายอาหารทะเลให้เลือกกว่า 200 แผง และทุกแผงก็มีอาหารทะเลที่หลากหลายให้เลือกซื้อ
นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับจังหวัดกระบี่ในช่วงนี้คลื่นลมในทะเลยังค่อนข้างแรงโดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตก จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กงดออกจากฝั่ง สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยใกล้ทางน้ำไหล ก็ให้ระมัดระวังและคอยสังเกตการเพิ่มปริมาณของน้ำอย่างใกล้ชิด หากผิดปกติก็ขอให้อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง
วันนี้ (19 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้สำรวจราคาอาหารทะเล ภายในตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ พบว่า ราคาสัตว์น้ำมีการปรับราคาสูงขึ้นในช่วงนี้ เนื่องจากเรือประมงจับสัตว์น้ำได้น้อยลง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ฝนตกหนักคลื่นลมแรง ทำให้เป็นอุปสรรคในการทำการประมง โดยราคาปลาที่ลูกค้านิยมบริโภค เช่น ปลาทู จากเดิมราคากิโลกรัมละ 80 บาท ปรับราคาขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 90 บาท ปลาลัง จากเดิมกิโลกรัมละ 90 บาท ปรับราคาขึ้นมา กิโลกรัมละ 100 บาท
กุ้งหัวเรียว จากเดิมกิโลกรัมละ 60 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท กุ้งแชบ๊วย จากเดิมกิโลกรัมละ 250 ขึ้นเป็นกิโลกรัม 300-350 บาท ปลาเก๋าจากเดิมกิโลกรัมละ 230 บาท ปรับขึ้นราคากิโลกรัมละ 250 บาท ปลาสำลี กิโลกรัมละ 280 บาท จากเดิมกก.ละ150 บาท
นางฮาวา ช่างเรือ ประธานชมรมอาหารทะเลตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ กล่าวว่า ราคาสัตว์น้ำทะเลช่วงนี้จะไม่คงที่ มีขึ้นบ้างลงบ้าง อย่างช่วงนี้เกิดฝนตกและมีมรสุมบ่อย ทำให้ชาวเรือประมงจับสัตว์น้ำได้น้อยลง ส่วนเรือเล็กก็ต้องงดออกจับปลา ส่งผลทำให้สัตว์น้ำบางชนิดเริ่มขาดตลาด เช่น ปลาลัง แม่ค้าบางรายก็ต้องไปหาซื้อมาจากตลาดมหาชัยบ้าง บางส่วนก็ไปซื้อมาจากจังหวัดระนองบ้าง เพื่อมาขายให้ลูกค้าประจำ ทำให้ราคาจะสูงกว่าปกติ ซึ่งเป็นไปตามต้นทุนที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลังจากคลื่นลมสงบ ราคาสัตว์น้ำก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และถึงแม้สัตว์น้ำบางชนิดขาดตลาด แต่ลูกค้าก็สามารถเลือกซื้อสัตว์น้ำอื่นๆ ที่ราคาถูกกว่าได้ เพราะในตลาดมหาราชมีแผงขายอาหารทะเลให้เลือกกว่า 200 แผง และทุกแผงก็มีอาหารทะเลที่หลากหลายให้เลือกซื้อ
นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับจังหวัดกระบี่ในช่วงนี้คลื่นลมในทะเลยังค่อนข้างแรงโดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนตก จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กงดออกจากฝั่ง สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยใกล้ทางน้ำไหล ก็ให้ระมัดระวังและคอยสังเกตการเพิ่มปริมาณของน้ำอย่างใกล้ชิด หากผิดปกติก็ขอให้อพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง