ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตร.งัดเอกสารจากแพทย์ยันหญิงที่ก่อเหตุฟันหัวทีมงาน “ชูวิทย์” บ้าจริง ไม่เกี่ยวกับปมการเมือง หรือเหตุที่ออกมาแฉเรื่องบ่อน และแหล่งค้ากาม เตรียมส่งตัวดำเนินคดีตามปกติ ด้านนายเทพทัต ผู้บาดเจ็บ เดินทางกลับ กทม.แล้วหลังตรวจพบว่าสมองไม่กระทบกระเทือน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า คดีหญิงเสียสติใช้มีดพร้าไล่ฟันคณะของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่ สภ.หาดใหญ่ เมื่อวานนี้ ขณะนำคณะกรรมาธิการตำรวจเดินทางลงมาติดตามปัญหาบ่อนการพนันด่านนอก และขบวนการค้ากามใน อ.หาดใหญ่ เป็นเหตุให้นายเทพทัต บุญพัฒนานนท์ ผู้ช่วย ส.ส.ของนายชูวิทย์ ถูกฟันเข้าที่กกหูได้รับบาดเจ็บ ต้องเย็บ 17 เข็ม ซึ่งนายชูวิทย์ได้เรียกร้องให้ตำรวจเร่งตรวจสอบหาความจริง เพราะเกรงว่าอาจมีเบื้องหน้าเบื้องหลังเพื่อทำร้ายตน
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (15 ก.ย.) พ.ต.อ.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ได้ตรวจจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าศูนย์จราจรหาดใหญ่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อประเมินเหตุการณ์ขณะที่ น.ส.คำหล้า มั่งมี ลงมือก่อเหตุใช้มีดพร้าไล่ฟันคณะของนายชูวิทย์ อย่างละเอียดอีกครั้ง
พร้อมกับนำหนังสือแจ้งผลการประเมินอาการผู้ต้องหา ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มงานจิตเวช โรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้รายงานผลการตรวจว่า “จากการประเมินสภาพจิตเบื้องต้นของ น.ส.คำหล้า พบว่าเป็นผู้มีอาการทางจิตเวช เห็นควรได้รับการประเมินและรักษาต่อที่โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์” มายืนยันว่าเป็นการกระทำของผู้ที่มีอาการทางจิต ไม่ใช่เป็นการจงใจทำร้ายคณะของนายชูวิทย์โดยตรง
พ.ต.อ.กฤษกร เปิดเผยว่า คดีนี้ ทาง พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.ภาค 9 และ พล.ต.ต.สุวิทย์ เชิญศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้เร่งรัดให้สอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด ซึ่งจากการตรวจสอบขณะนี้ยืนยันว่า เป็นการกระทำของผู้ที่มีอาการทางจิตไม่สามารถบังคับตัวเองได้ และเป็นเพียงคดีทำร้ายร่างกายธรรมดาเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับการเมือง การอภิปรายในสภา หรือการที่คณะของนายชูวิทย์ลงมาตรวจสองเรื่องบ่อนการพนัน หรือแฉขบวนการค้ากามในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ แต่อย่างใด ซึ่งพฤติกรรมในการก่อเหตุของ น.ส.คำหล้านั้น ไม่ว่าจะเป็นนายชูวิทย์ หรือใครก็ตามที่ไปยืนอยู่จุดนั้นก็มีโอกาสถูกฟันได้เช่นเดียวกัน
ส่วนการดำเนินคดีต่อ น.ส.คำหล้า นั้นได้ดำเนินคดีอาญา และส่งฟ้องตามปกติเหมือนผู้ต้องหาทั่วไปในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น แต่หากท้ายที่สุดแล้วถ้าได้รับการยืนยันผลการตรวจจากแพทย์โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ว่าการกระทำความผิดของผู้ต้องหาไม่มีเจตนาในการกระทำความผิดเพราะไม่สามารถบังคับตัวเองได้ ก็ไม่สามารถที่จะลงโทษต่อผู้กระทำผิดได้
ทางด้าน นายเทพทัต บุญพัฒนานนท์ ผู้ช่วยของนายชูวิทย์ หลังจากที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ก็ได้ออกจากโรงพยาบาล และเดินทางกลับกรุงเทพฯ ไปตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ โดยผลการตรวจพบว่า ไม่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อสมอง เป็นเพียงบาดแผลถูกฟันธรรมดา