ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “ชูวิทย์” เรียกร้องให้ตำรวจหาดใหญ่สอบสวนเหตุหญิงบ้าใช้มีดพร้าฟันหัวเลขฯ ว่าบ้าจริงหรือไม่เพราะเจาะจงฟันเฉพาะทีมตน เกรงมีการยุยงหลังแฉเรื่องขบวนการค้ากาม และบ่อนพนัน ขณะที่ตำรวจยืนยันบ้าจริง
วันนี้ (14 ก.ย.) หลังเกิดเหตุหญิงเสียสติไล่ฟันคณะของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ขณะเดินทางมากับคณะกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อติดตามเรื่องการค้ามนุนย์และบ่อนการพนันที่ สภ.หาดใหญ่ เป็นเหตุให้นายเทพทัต บุญพัฒนานนท์ อายุ 29 ปี ผู้ช่วยของนายชูวิทย์ ถูกฟันเข้าที่กกหู ต้องเย็บแผลถึง 17 เข็ม ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายชูวิทย์ได้ให้สัมภาษณ์ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ โดยระบุว่า ต้องการให้ตำรวจ สภ.หาดใหญ่ สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าผู้หญิงที่ก่อเหตุสติไม่สมประกอบจริงหรือไม่ เพราะดูจากพฤติกรรมแล้วเฉพาะเจาะจงมาไล่ฟันเฉพาะกลุ่มตน หากบ้าจริงตนก็จะไม่เอาเรื่อง แต่หากแกล้งบ้าก็ต้องไปดูว่ามีใครยุยุงหรือไม่ ซึ่งตำรวจจะต้องไปตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร แม้ตำรวจจะยืนยันว่าสติไม่สมประกอบ เพราะในช่วงเช้าหญิงสาวคนดังกล่าวได้พยายามไปแย่งปืนตำรวจ ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนที่ตนจะเดินทางมาหาดใหญ่มีข่าวว่าได้มีใบปลิวประชดประชันตนว่าขอบคุณที่ทำให้หาดใหญ่เจ๊ง เนื่องจากตนออกมาแฉเรื่องขบวนการค้ากามใน อ.หาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ น.ส.คำหล้า มั่งมี อายุ 27 ปี ที่ก่อเหตุนั้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปตรวจอาการที่โรงพยาบาลหาดใหญ่แล้ว
ด้าน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ เปิดเผยว่า สำหรับ น.ส.คำหล้า มั่งมี อายุ 27 ปี ที่ก่อเหตุนั้น หลังจากที่ตำรวจได้ส่งตัวไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่เพื่อให้แพทย์จิตเวชตรวจเช็กอาการทางประสาท ซึ่งได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่า น.ส.คำหล้ามีอาการทางประสาทจริง พร้อมกับออกหนังสือยืนยันก่อนที่จะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์
พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. น.ส.คำหล้าได้เดินเข้ามาใน สภ.หาดใหญ่ และพยายามก่อเหตุแย่งปืนตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวให้สงบสติอารมณ์ แต่ปรากฏว่า หลังจากนั้นก็ได้แอบปีนขึ้นไปอยู่บนแท็งก์น้ำหลังโรงพัก และพยายามกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย ซึ่งตำรวจได้ช่วยกันเจรจาเกลี้ยกล่อมจนยอมลงมา โดย น.ส.คำหล้าอยู่ในอาการเหม่อลอย บางครั้งก็หัวเราะ บางครั้งก็ร้องไห้ และพูดจาเรื่อยเปื่อย กระทั่งอาการสงบลง และเริ่มพูดคุยรู้เรื่อง ทาง พ.ต.ท.ภูวดล อาบทิพย์ สว.สส.สภ.หาดใหญ่ จึงได้ให้เงินจำนวน 500 บาท เพื่อให้นำไปกินข้าวและเดินทางกลับบ้าน จากนั้น น.ส.คำหล้าจึงเดินออกไปจากโรงพัก
จนกระทั่งนายชูวิทย์ และคณะที่เดินทางมาด้วยกันเสร็จสิ้นจากการรับฟังบรรยายสรุปบนห้องประชุม สภ.หาดใหญ่ และเดินมารอขึ้นรถ น.ส.คำหล้าได้เดินถือมีดพร้าเข้ามาฟันคณะของนายชูวิทย์ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก ไม่มีใครทันสังเกตเห็น และไม่ทราบว่า น.ส.คำหล้าย้อนกลับเข้ามาในโรงพักตั้งแต่เมื่อไหร่ ส่วนมีดพร้าที่ใช้ฟันนั้นเป็นมีดพร้าของคนทำสวนที่วางไว้ข้างโรงพัก
พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของหญิงที่มีอาการทางประสาทจริงๆ ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง หรือเกี่ยวกับเรื่องที่ที่นายชูวิทย์เดินทางลงมาติดตามเรื่องขบวนการค้ากามในเมืองหาดใหญ่ และบ่อนการพนันที่ด่านนอกแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : หวิดสิ้นจอมแฉ หญิงบ้าใช้มีดพร้าฟันหัวเลขาฯ “ชูวิทย์” กลางโรงพักหาดใหญ่