ระนอง - นักอนุรักษ์เตือนขุดลอกคลองทำลาย “พลับพลึงธาร" ซึ่งพบแห่งเดียวในโลกที่ จ.ระนอง วอนช่วยกันอนุรักษ์ก่อนสูญพันธุ์ เผยในระยะเวลา 4 ปี ลดจำนวนลงมาก จาก 11 ไร่ เหลือเพียง 2 ไร่เท่านั้น
นายสมศักดิ์ สุนทรนวภัทร ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์พลับพลึงธาร และผู้จัดการโครงการประเทศไทย องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ ICUN กล่าวถึงต้นพลับพลึงธารที่ขึ้นอยู่ในพื้นที่ จ.ระนอง และเป็นแห่งเดียวในโลกว่า ล่าสุด มีความน่าเป็นห่วงเนื่องจากพลับพลึงธารลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว โดยจากการสำรวจพื้นที่ที่พบต้นพลับพลึงธารใน จ.ระนอง ตอนล่าง และ จ.พังงา ตอนบนในอดีตจากพื้นที่รวม 11 ไร่ เมื่อประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา ล่าสุด เหลือพื้นที่ที่พบรวมแล้วเพียง 2 ไร่เท่านั้น จึงมีแนวโน้มที่ต้นพลับพลึงธารจะสูญพันธุ์ไปจากโลกสูงมาก
ทั้งนี้ จะมีการจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดในระดับจังหวัด จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนที่เกี่ยวข้อง ในวันที่ 15 ก.ย.นี้ เพื่อผลักดันให้มีการประกาศคุ้มครองต้นพลับพลึงธาร และพื้นที่อาศัยตามพระราชบัญญัติส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ปี 2535 ซึ่งขณะนี้มีหน่วยงานต่างๆ และประชาชนใน จ.ระนอง เห็นด้วยเป็นจำนวนมาก เพราะที่ผ่านมา ไม่มีกฎหมายใดที่จะคุ้มครองจึงทำให้เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ไปจากโลก
สำหรับสาเหตุที่ทำให้พลับพลึงธารลดจำนวนลงนั้นเนื่องมาจากการขุดลอกคลอง เหตุการณ์น้ำท่วม และการลักลอบขุดหัวไปขาย จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกฝ่ายจะต้องรู้ถึงสถานการณ์ของต้นพลับพลึงธารที่ใกล้สูญพันธุ์ และร่วมมือกันอนุรักษ์อย่างจริงจัง เพราะขณะนี้พลับพลึงธารใน จ.ระนอง สามารถพบได้ในคลองสาขาบางแห่งเท่านั้น
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านอนุรักษ์พลับพลึงธาร ยังกล่าวอีกว่า ในปีนี้ชาวบ้านได้งดกิจกรรมล่องแพแลพลับพลึงธารที่เคยจัดขึ้นให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมเป็นประจำทุกปี เพราะจะต้องอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งอาศัย และต้นพลับพลึงธารอย่างเร่งด่วน เพื่อให้กลับมาสวยงามเหมือนในอดีต