ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคใต้จัดประชุมวิชาการ “การตัดสินใจเชิงจริยธรรมและกรณีฟ้องร้อง/กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพ”
วันนี้ (10 ก.ย.) ณ โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคใต้ จัดโครงการประชุมวิชาการเรื่อง “การตัดสินใจเชิงจริยธรรมและกรณีฟ้องร้อง/กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพ” พร้อมจัดพิธีมอบโล่รางวัลพยาบาล และทีมปฏิบัติการพยาบาลดีเด่นและพิธีมอบเกียติบัตรนักศึกษาพยาบาลดีเด่น ประจำปี 2555
รศ.ดร.จินตนา ยูนิพันธุ์ นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคใต้ ได้ให้ความสำคัญในประเด็นการตัดสินใจเชิงจริยธรรมสำหรับพยาบาล ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญเพื่อช่วยให้การดูแลผู้ป่วยมีคุณภาพมากขึ้น ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทางกฎหมายและการฟ้องร้องเกิดความคุ้มค่า และความมีอิสระในการตัดสินใจในสิ่งที่อาจมีผลกระทบต่อตนเอง ผู้ป่วยครอบครัว และหน่วยงานองค์กร ซึ่งนับเป็นบทบาท และหน้าที่ที่สำคัญของพยาบาลวิชาชีพ และบุคลากรสาธารณสุข ก่อให้เกิดสัมพันธภาพที่ดีระหว่างพยาบาลกับผู้ป่วย และครอบครัว
ด้านนางภรณี เลื่องอรุณ นายกสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคใต้ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการประชุมวิชาการเรื่อง “การตัดสินใจเชิงจริยธรรมและกรณีฟ้องร้อง/กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพ” ครั้งนี้ จัดขึ้นตามแผนยุทธศาสตร์ประจำปี พ.ศ.2555 ของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ สาขาภาคใต้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความรู้ ความเข้าใจของพยาบาลในการตัดสินใจเชิงจริยธรรมสู่การปฏิบัติการพยาบาลที่มีคุณภาพ ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนให้นำไปสู่การปฏิบัติการพยาบาลที่มีประสิทธิภาพการตัดสินใจในเชิงจริยธรรม เป็นข้อบ่งชี้ถึงความเป็นวิชาชีพที่ทำให้เกิดการตัดสินใจที่ดี และถูกต้อง เกิดประโยชน์แก่ผู้ป่วยและครอบครัว
นอกจากการประชุมวิชาการแล้ว ยังมีพิธีมอบโล่รางวัลเกียรติยศแก่พยาบาลและทีมปฏิบัติการพยาบาลดีเด่นในพื้นที่ภาคใต้ และพิธีมอบเกียรติบัตรแก่นักศึกษาพยาบาลดีเด่นจากสถาบันการศึกษาพยาบาลในพื้นที่ภาคใต้ รวมทั้งโครงการ
ทั้งนี้ การประชุมวิชาการเรื่อง “การตัดสินใจเชิงจริยธรรมและกรณีฟ้องร้อง/กฏหมายที่เกี่ยวข้องกับบริการสุขภาพ” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 กันยายน 2555 ณ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้บริหารทางการพยาบาล ผู้ปฏิบัติการพยาบาล บุคลากรทางด้านสาธารณสุขทั้งภาครัฐ และเอกชน และผู้สนใจจำนวนทั้งสิ้น 250 คน