ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมือง-หน.ฝ่ายกงสุล กระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการข่าวอย่างเป็นทางการที่ จ.ภูเก็ต ร่วมหารือ-แลกเปลี่ยนการต่อต้านการค้ามนุษย์-อาชญากรรมข้ามชาติในประเทศสมาชิก พร้อมหามาตรการเฝ้าระวังอาชญากรข้ามชาติฉวยโอกาสเข้ามาในประเทศหลังเปิดเสรีประชาคมอาเซียน
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่โรงแรมฮิลตันภูเก็ต อาคาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผช.ผบ.ตร.เป็นประธานเปิดการประชุม อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมือง-หัวหน้าฝ่ายกงสุล กระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 16 และ การประชุมอาเซียน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการข่าวหน่วยตรวจคนเข้าเมือง ครั้งที่ 8 โดย พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม.พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ประจำ สตม.และ พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ ผกก.ตม.ภูเก็ต ตลอดจนอธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.-หัวหน้าหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง หัวหน้างานด้านกงสุล และหัวหน้างานด้านการข่าวของประเทศสมาชิกอาเซียนกว่า 50 คนเข้าร่วม
สำหรับการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-7 ก.ย.เพื่อเป็นการหารือประเด็นต่างๆ เช่น การประสานข้อมูลด้านการข่าวในกลุ่มประเทศสมาชิก การร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งการหารือประเด็นผลงานและการพัฒนางานด้านตรวจคนเข้าเมือง การสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งจะมีการร่วมพิจารณา และกำหนดแนวทางทำงานร่วมกันของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเป็นการเตรียมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
พล.ต.ท.เจตน์ กล่าวว่า การประชุมอธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมือง-หัวหน้าฝ่ายกงสุล กระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 16 และการประชุมอาเซียน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการข่าวหน่วยตรวจคนเข้าเมือง ครั้งที่ 8 จะมีการจัดประชุมขึ้นทุกๆ ปี โดยประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านตรวจคนเข้าเมือง และความร่วมมือด้านการข่าวระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการจัดการประชุมดังกล่าวมาแล้ว 15 ครั้ง และการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการข่าวจำนวน 7 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ สำหรับครั้งนี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยเป็นเจ้าภาพครั้งแรกเมื่อปี 2545
“ขณะเดียวกัน การประชุมครั้งนี้ยังได้มีการหารือทวิภาคีระหว่างอาเซียนกับประเทศออสเตรเลียในประเด็นความร่วมมือต่างๆ เช่น การฝึกอบรมเพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติ และแบ่งปันประสบการณ์ทำงานร่วมกัน ซึ่งการที่ประเทศไทยได้รับทราบแผนงาน หรือโครงการในอนาคตของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนที่จะดำเนินการใดๆ นั้น จะสามารถนำมาประยุกต์กับภารกิจของกิจการด้านงานตรวจคนเข้าเมือง และงานด้านกงสุล โดยผลการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของแต่ละประเทศ จะทำให้ประเทศไทยรู้ทันสถานการณ์ในภูมิภาคที่เกิดขึ้น จึงสามารถนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาหน่วยงาน และความสามารถของเจ้าหน้าที่ให้รู้ทันต่อรูปแบบและวิธีการของกระบวนการในการกระทำความผิดของประเทศ หรือกลุ่มคนที่ไม่ประสงค์ดีต่อสังคมของโลก และความสัมพันธ์อันดีของผู้เข้าร่วมประชุมจะนำไปสู่การเกิดเครือข่ายประสานงานที่มีประสิทธิภาพของประเทศไทยกับประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน ประเทศออสเตรเลีย และสำนักงานเลขาธิการอาเซียนในความร่วมมืออันจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อความมั่นคง และความปลอดภัยของประเทศไทยและสังคมโลก”
พล.ต.ท.เจตน์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงปัญหาอาชญากรข้ามชาติที่จะแฝงตัวเข้ามาในช่วงการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ว่า เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ ผบช.สตม.ดูแลด้านข้อมูล และบัญชีดำ หรือแบล็กลิสต์กลุ่มต่างชาติที่มีประวัติอาชญากร โดยยอมรับว่า อาจจะมีการหลั่งไหล-แฝงตัวเข้ามาในช่วงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ส่งผลให้แต่ละประเทศ รวมทั้งประเทศไทยอาจมีปัญหามาก ในเรื่องนี้จะต้องวางมาตรการต่างๆ ให้ดี และรอบคอบมากที่สุด ส่วนจะทำให้มีสถิติอาชญากรรมที่เกิดจากอาชญากรข้ามชาติเพิ่มขึ้น หรือน้อยลงในพื้นที่หรือไม่นั้นยังไม่สามารถระบุได้
แต่ยอมรับว่าจะมีคนเคลื่อนตัว และหลั่งไหลเข้าในประเทศมากขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากไปมาสะดวกมากขึ้น ส่วน จ.ภูเก็ตอาจเป็นทางผ่านมากขึ้นสำหรับกลุ่มอาชญากรข้ามชาติต่างๆ เนื่องจาก จ.ภูเก็ตเองเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และเมื่อสามารถเข้าออกง่ายขึ้นจะทำให้มีคนหลั่งไหลมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะต้องวางมาตรการต่างๆ ร่วมกับ ตม.ภูเก็ต และตำรวจในพื้นที่
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่โรงแรมฮิลตันภูเก็ต อาคาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต พล.ต.ท.เจตน์ มงคลหัตถี ผช.ผบ.ตร.เป็นประธานเปิดการประชุม อธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมือง-หัวหน้าฝ่ายกงสุล กระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 16 และ การประชุมอาเซียน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการข่าวหน่วยตรวจคนเข้าเมือง ครั้งที่ 8 โดย พล.ต.ท.วิบูลย์ บางท่าไม้ ผบช.สตม.พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ประจำ สตม.และ พ.ต.อ.ภาณุวัฒน์ ร่วมรักษ์ ผกก.ตม.ภูเก็ต ตลอดจนอธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.-หัวหน้าหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง หัวหน้างานด้านกงสุล และหัวหน้างานด้านการข่าวของประเทศสมาชิกอาเซียนกว่า 50 คนเข้าร่วม
สำหรับการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-7 ก.ย.เพื่อเป็นการหารือประเด็นต่างๆ เช่น การประสานข้อมูลด้านการข่าวในกลุ่มประเทศสมาชิก การร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ และอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งการหารือประเด็นผลงานและการพัฒนางานด้านตรวจคนเข้าเมือง การสร้างเครือข่ายการทำงานร่วมกันในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งจะมีการร่วมพิจารณา และกำหนดแนวทางทำงานร่วมกันของหน่วยงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเป็นการเตรียมรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
พล.ต.ท.เจตน์ กล่าวว่า การประชุมอธิบดีกรมตรวจคนเข้าเมือง-หัวหน้าฝ่ายกงสุล กระทรวงการต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 16 และการประชุมอาเซียน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการข่าวหน่วยตรวจคนเข้าเมือง ครั้งที่ 8 จะมีการจัดประชุมขึ้นทุกๆ ปี โดยประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านตรวจคนเข้าเมือง และความร่วมมือด้านการข่าวระหว่างประเทศสมาชิก ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการจัดการประชุมดังกล่าวมาแล้ว 15 ครั้ง และการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการข่าวจำนวน 7 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ สำหรับครั้งนี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยเป็นเจ้าภาพครั้งแรกเมื่อปี 2545
“ขณะเดียวกัน การประชุมครั้งนี้ยังได้มีการหารือทวิภาคีระหว่างอาเซียนกับประเทศออสเตรเลียในประเด็นความร่วมมือต่างๆ เช่น การฝึกอบรมเพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติ และแบ่งปันประสบการณ์ทำงานร่วมกัน ซึ่งการที่ประเทศไทยได้รับทราบแผนงาน หรือโครงการในอนาคตของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียนที่จะดำเนินการใดๆ นั้น จะสามารถนำมาประยุกต์กับภารกิจของกิจการด้านงานตรวจคนเข้าเมือง และงานด้านกงสุล โดยผลการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารของแต่ละประเทศ จะทำให้ประเทศไทยรู้ทันสถานการณ์ในภูมิภาคที่เกิดขึ้น จึงสามารถนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาหน่วยงาน และความสามารถของเจ้าหน้าที่ให้รู้ทันต่อรูปแบบและวิธีการของกระบวนการในการกระทำความผิดของประเทศ หรือกลุ่มคนที่ไม่ประสงค์ดีต่อสังคมของโลก และความสัมพันธ์อันดีของผู้เข้าร่วมประชุมจะนำไปสู่การเกิดเครือข่ายประสานงานที่มีประสิทธิภาพของประเทศไทยกับประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียน ประเทศออสเตรเลีย และสำนักงานเลขาธิการอาเซียนในความร่วมมืออันจะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อความมั่นคง และความปลอดภัยของประเทศไทยและสังคมโลก”
พล.ต.ท.เจตน์ ยังได้กล่าวต่อไปถึงปัญหาอาชญากรข้ามชาติที่จะแฝงตัวเข้ามาในช่วงการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ว่า เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ ผบช.สตม.ดูแลด้านข้อมูล และบัญชีดำ หรือแบล็กลิสต์กลุ่มต่างชาติที่มีประวัติอาชญากร โดยยอมรับว่า อาจจะมีการหลั่งไหล-แฝงตัวเข้ามาในช่วงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ส่งผลให้แต่ละประเทศ รวมทั้งประเทศไทยอาจมีปัญหามาก ในเรื่องนี้จะต้องวางมาตรการต่างๆ ให้ดี และรอบคอบมากที่สุด ส่วนจะทำให้มีสถิติอาชญากรรมที่เกิดจากอาชญากรข้ามชาติเพิ่มขึ้น หรือน้อยลงในพื้นที่หรือไม่นั้นยังไม่สามารถระบุได้
แต่ยอมรับว่าจะมีคนเคลื่อนตัว และหลั่งไหลเข้าในประเทศมากขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากไปมาสะดวกมากขึ้น ส่วน จ.ภูเก็ตอาจเป็นทางผ่านมากขึ้นสำหรับกลุ่มอาชญากรข้ามชาติต่างๆ เนื่องจาก จ.ภูเก็ตเองเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และเมื่อสามารถเข้าออกง่ายขึ้นจะทำให้มีคนหลั่งไหลมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะต้องวางมาตรการต่างๆ ร่วมกับ ตม.ภูเก็ต และตำรวจในพื้นที่