นราธิวาส - ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส เรียกร้องนายกรัฐมนตรีในโอกาสลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส โดยขอให้มีการกำหนดยุทธศาสตร์การรักษาความปลอดภัยที่เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งขอให้ปรับหลักเกณฑ์การเยียวยาด้านทรัพย์สินเพื่อให้ภาคธุรกิจฟื้นตัวได้
วันนี้ (5 ก.ย.) นายกู้เกียรติ บูรพาพงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส ชื่นชม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่มาเยี่ยมปลอบขวัญประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พร้อมติดตามสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะนอกจากจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่แล้ว ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคธุรกิจ และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ อยากเรียกร้องให้มีการกำหนดยุทธศาสตร์การรักษาความปลอดภัยที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งการจัดพื้นที่เซฟตี้โซน การสนับสนุนอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบวัตถุระเบิด การติดตั้งกล้องวงจรปิดที่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด และนอกจากนี้ ต้องการให้รัฐบาลปรับหลักเกณฑ์การเยียวยาด้านทรัพย์สินแก่ผู้ได้รับผลกระทบตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
หลังจากที่มีการมุ่งก่อเหตุกับภาคธุรกิจขนาดใหญ่ จนได้รับความเสียหายไปเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายแต่ละครั้งทำให้เจ้าของธุรกิจถึงขั้นหมดตัว แต่เมื่อประเมินความเสียหายแล้วกลับได้รับเงินเยียวยาที่มีส่วนต่างอยู่หลายเท่า ซึ่งไม่เพียงพอต่อการฟื้นตัวของธุรกิจเหล่านี้ ทั้งนี้ เมื่อมีการปรับหลักเกณฑ์การเยียวยาผู้เสียชีวิต ผู้ทุพพลภาพ และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบแล้ว ก็ควรที่จะปรับเกณฑ์การเยียวยาด้านทรัพย์สินให้ด้วย
เพราะเป็นเรื่องของการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่นักธุรกิจผู้ได้รับผลกระทบให้ยืนหยัดอยู่ในพื้นที่ต่อไป โดยยอมรับหากยังมีการก่อเหตุร้ายกับภาคธุรกิจเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง ก็เป็นห่วงว่านักธุรกิจจะปิดกิจการ และละทิ้งถิ่นฐานออกไปจากพื้นที่ื ซึ่งจะกระทบกับระบบเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่มีการจ้างงาน และการลงทุนที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้เป็นจำนวนมาก
วันนี้ (5 ก.ย.) นายกู้เกียรติ บูรพาพงศ์ ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส ชื่นชม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่มาเยี่ยมปลอบขวัญประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส พร้อมติดตามสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะนอกจากจะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่แล้ว ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคธุรกิจ และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดชายแดนภาคใต้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ อยากเรียกร้องให้มีการกำหนดยุทธศาสตร์การรักษาความปลอดภัยที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งการจัดพื้นที่เซฟตี้โซน การสนับสนุนอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบวัตถุระเบิด การติดตั้งกล้องวงจรปิดที่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด และนอกจากนี้ ต้องการให้รัฐบาลปรับหลักเกณฑ์การเยียวยาด้านทรัพย์สินแก่ผู้ได้รับผลกระทบตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
หลังจากที่มีการมุ่งก่อเหตุกับภาคธุรกิจขนาดใหญ่ จนได้รับความเสียหายไปเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายแต่ละครั้งทำให้เจ้าของธุรกิจถึงขั้นหมดตัว แต่เมื่อประเมินความเสียหายแล้วกลับได้รับเงินเยียวยาที่มีส่วนต่างอยู่หลายเท่า ซึ่งไม่เพียงพอต่อการฟื้นตัวของธุรกิจเหล่านี้ ทั้งนี้ เมื่อมีการปรับหลักเกณฑ์การเยียวยาผู้เสียชีวิต ผู้ทุพพลภาพ และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบแล้ว ก็ควรที่จะปรับเกณฑ์การเยียวยาด้านทรัพย์สินให้ด้วย
เพราะเป็นเรื่องของการได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่นักธุรกิจผู้ได้รับผลกระทบให้ยืนหยัดอยู่ในพื้นที่ต่อไป โดยยอมรับหากยังมีการก่อเหตุร้ายกับภาคธุรกิจเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง ก็เป็นห่วงว่านักธุรกิจจะปิดกิจการ และละทิ้งถิ่นฐานออกไปจากพื้นที่ื ซึ่งจะกระทบกับระบบเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่มีการจ้างงาน และการลงทุนที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ได้เป็นจำนวนมาก