พัทลุง - รองอธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ และรอง ผบก.สส.ภ.9 ลงพื้นที่ จ.พัทลุงตรวจสอบคลังสินค้ากลาง และโรงรับจำนำข้าวเพื่อติดตามการรับจำนำข้าวตามนโยบายรัฐบาล พบคลังสินค้ากลางมีพิรุธไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับหลายอย่าง
เวลาประมาณ 15.30 น.วันนี้ (4 ก.ย.) ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุงรายงานว่า นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) พ.ต.ท.วิชิต อุปาละ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะกิจด้านคดีพิเศษ กรมสอบสวนพิเศษ (DSI) และ พ.ต.อ.กำพล บัวรับพร รอง ผบก.สส.ภ.9 ผู้แทนจาก ป.ป.ท. และคณะ ได้ลงพื้นที่ จ.พัทลุง เพื่อติดตามการรับจำนำข้าวตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งจากการตรวจสอบคลังสินค้ากลางของ นายสุนทร จริตสกุล เลขที่ 37 ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเอเชีย ช่วงพัทลุง-นครศรีธรรมราช พบว่า คลังสินค้ากลางดังกล่าวมีข้าวสารเก็บอยู่ จำนวน 120,960 ตัน โดยแบ่งการเก็บออกเป็น 8 กอง จำนวน 7 กอง
ทางด้านนายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จากการตรวจสอบคลังสินค้ากลางดังกล่าวพบว่า ทางเจ้าของไม่ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับ กล่าวคือ ไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่ระเบียบได้บังคับไว้ ส่วนกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ก็ติดตั้งไม่ตรงจุด และกล้องวงจรปิดตัวดังกล่าวเป็นกล้องหลอก ใช้การไม่ได้อีกด้วย และการถือกุญแจคลังสินค้ากลางตามระเบียบข้อบังคับจะต้องถือกัน 3 คน แต่คลังสินค้ากลางดังกล่าวถือเพียงคนเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีความบกพร่องการรายงานประจำกอง ซึ่งไม่มีใบกำกับหน้าโกดังอีกด้วยซึ่งตนถือว่าการดำเนินงานของคลังสินค้ากลางแห่งนี้ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับให้ครบถ้วนตามระเบียบของคลังสินค้ากลาง ซึ่งตนได้แจ้งให้นายสุนทร จริตสกุล ผู้ดูแลคลังสินค้ากลางดังกล่าว ได้เร่งแก้ไข ปรับปรุงข้อบกพร่องให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ภายใน 15 วัน จากนั้น ตนและคณะจะเดินทางมาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง หากพบว่ายังไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบกฎหมายกับคลังสินค้ากลางดังกล่าวต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาทางนายสรรเสริญ และคณะได้เดินทางไปตรวจสอบจุดรับจำนำข้าวของโรงสีพัทลุงธัญกิจ 2 ของนายไสว สุวรรณพยัคฆ์ ในท้องที่ ม.12 ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเอเชีย ช่วงพัทลุง-หาดใหญ่ โดยมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมาให้การต้อนรับนายสรรเสริญฯและคณะด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบรายละเอียดตามขั้นตอนการรับจำนำข้าวของโรงสีดังกล่าว ไม่พบการทุจริตแต่อย่างใด และพบว่าชาวบ้านสามารถจำนำข้าวได้ในราคาประมาณตันละ 12,000-14,000 บาท ซึ่งชาวนาพอใจกับนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลเป็นอย่างมาก เพราะในขณะนี้ราคาขายทั่วไปมีการซื้อขายกันตันละประมาณ 8,500-9,000 บาทเท่านั้น