กระบี่ - ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดกระบี่ นำพันธุ์ดอกหน้าวัว จากประเทศฮอลแลนด์ เพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ สำเร็จ จำนวน 10 สายพันธุ์ พร้อมเปิดให้ผู้สนใจเข้าศึกษาเรียนรู้ ต่อยอดเชิงธุรกิจ
เจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร นำสื่อมวลชน สำรวจ ดอกหน้าวัว ภายในแปลงทดลอง ภายหลังจากทดลองนำพันธุ์ดอกหน้าวัว จากประเทศฮอลแลนด์มาทดลองเพาะเลี้ยงในกระถาง ภายในศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จนประสบความสำเร็จ โดยเริ่มนำสายพันธุ์ดอกหน้าวัวมาปลูกในกระถางมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2536
ซึ่งในการทดลองพัฒนาขยายพันธุ์ดอกหน้าวัวนั้น ได้นำพันธุ์ต้นดอกหน้าวัวมาจากประเทศฮอลแลนด์ จำนวนกว่า 100 สายพันธุ์ จากนั้นก็นำมาทดลองเพาะพันธุ์ ผลปรากฎว่าเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่มีความชื้น และดูแลง่ายกว่าแบบปลูกในแปลง เพราะเคลื่อนย้ายสะดวก และได้เปิดให้เกษตรกรและผู้สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงดอกหน้าวัว สายพันธุ์ดังกล่าว เพื่อนำความรู้ไปต่อยอดในเชิงธุรกิจ หรือตามความสนใจ
นายสำเริง ปานศรี นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ชำนาญการ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรกระบี่ กล่าวว่า สายพันธุ์ดอกหน้าวัว ที่เพาะเลี้ยงอยู่ในศูนย์ฯ มีอยู่กว่า10 สายพันธ์ อาทิ สายพันธุ์ แชมเปี้ยนพิ้งค์ แชมเปี้ยนไว้ท์ เมจิกเรด แอตแลนต้า มอนทานา เป็นต้น ซึ่งได้สายพันธ์มาจากประเทศฮอลแลนด์ โดยดอกหน้าวัวนั้นนิยมตัดดอกไปประดับในแจกัน หรือเหมาะสำหรับเพาะเลี้ยงเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือน หรือจะนำไปเลี้ยงเชิงเศรษฐกิจ โดยราคาขายตามท้องตลาดอยู่ที่ ต้นละ 250 บาท
สำหรับต้นหน้าวัว ที่ปลูกในกระถาง จะมีอายุไม่ต่ำกว่า 3 ปี ส่วนการดูแลรักษาทำได้ง่าย เพราะดูแลรักษาง่าย รดน้ำวันละ1 ครั้ง ใส่ปุ๋ยต้น 3 เดือนครั้ง สูตร 15-15-15 หากใครสนใจสามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้ที่ศูนย์ฯ ได้ในวันและเวลาราชการ หรือจะมาเป็นแบบกลุ่มองค์กร หรือชุมชนก็ยินดี ซึ่งที่ผ่านมา มาผู้สนในทั้งจากจังหวัดกระบี่และใกล้เคียงเข้ามาศึกษาเรียนรู้จำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร นำสื่อมวลชน สำรวจ ดอกหน้าวัว ภายในแปลงทดลอง ภายหลังจากทดลองนำพันธุ์ดอกหน้าวัว จากประเทศฮอลแลนด์มาทดลองเพาะเลี้ยงในกระถาง ภายในศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จนประสบความสำเร็จ โดยเริ่มนำสายพันธุ์ดอกหน้าวัวมาปลูกในกระถางมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2536
ซึ่งในการทดลองพัฒนาขยายพันธุ์ดอกหน้าวัวนั้น ได้นำพันธุ์ต้นดอกหน้าวัวมาจากประเทศฮอลแลนด์ จำนวนกว่า 100 สายพันธุ์ จากนั้นก็นำมาทดลองเพาะพันธุ์ ผลปรากฎว่าเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่มีความชื้น และดูแลง่ายกว่าแบบปลูกในแปลง เพราะเคลื่อนย้ายสะดวก และได้เปิดให้เกษตรกรและผู้สนใจได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงดอกหน้าวัว สายพันธุ์ดังกล่าว เพื่อนำความรู้ไปต่อยอดในเชิงธุรกิจ หรือตามความสนใจ
นายสำเริง ปานศรี นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ชำนาญการ ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรกระบี่ กล่าวว่า สายพันธุ์ดอกหน้าวัว ที่เพาะเลี้ยงอยู่ในศูนย์ฯ มีอยู่กว่า10 สายพันธ์ อาทิ สายพันธุ์ แชมเปี้ยนพิ้งค์ แชมเปี้ยนไว้ท์ เมจิกเรด แอตแลนต้า มอนทานา เป็นต้น ซึ่งได้สายพันธ์มาจากประเทศฮอลแลนด์ โดยดอกหน้าวัวนั้นนิยมตัดดอกไปประดับในแจกัน หรือเหมาะสำหรับเพาะเลี้ยงเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือน หรือจะนำไปเลี้ยงเชิงเศรษฐกิจ โดยราคาขายตามท้องตลาดอยู่ที่ ต้นละ 250 บาท
สำหรับต้นหน้าวัว ที่ปลูกในกระถาง จะมีอายุไม่ต่ำกว่า 3 ปี ส่วนการดูแลรักษาทำได้ง่าย เพราะดูแลรักษาง่าย รดน้ำวันละ1 ครั้ง ใส่ปุ๋ยต้น 3 เดือนครั้ง สูตร 15-15-15 หากใครสนใจสามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้ที่ศูนย์ฯ ได้ในวันและเวลาราชการ หรือจะมาเป็นแบบกลุ่มองค์กร หรือชุมชนก็ยินดี ซึ่งที่ผ่านมา มาผู้สนในทั้งจากจังหวัดกระบี่และใกล้เคียงเข้ามาศึกษาเรียนรู้จำนวนมาก