นราธิวาส - เกิดเหตุคนร้ายลอบขว้างระเบิดใส่เพิงขายข้าวเหนียวไก่ทอด ในพื้นที่ อ.รือเสาะ โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบเหตุนร้ายได้ปักธงชาติรัฐมาเลเซีย ที่บริเวณทางโค้งถนนบ้านจาเราะสะโตร์ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (31 ส.ค.) ร.ต.ท.วันชัย รักบุญเมือง ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่เพิงขายข้าวเหนียว และไก่ทอด ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนรือเสาะวิทยา ม.3 ต.รือเสาะออก จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบที่บริเวณริมขอบฟุตปาธมีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายเล็ก และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้างที่ผลิตเอง ใส่ไว้ในกระป๋องของปลากระป๋องยี่ห้อหนึ่ง หนัก 0.5 กก. ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเจ้าของเพิงขายข้าวเหนียวไก่ทอด หลังเกิดเหตุเกิดความกลัวได้ขี่รถจักรยานยนต์หายไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อ
จากการสอบสวนทราบว่า ในระหว่างที่ผู้เสียหายกำลังยืนทอดไก่อยู่ที่เพิงนั้น ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้รถยนต์กระบะ สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบยี่ห้อ และแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะ เมื่อแล่นผ่านคนร้ายที่นั่งกระบะหลังได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้างที่ผลิตเอง ขว้างใส่เพิงขายข้าวเหนียวและไก่ทอด แต่ระเบิดได้ตกบริเวณริมฟุตปาธ จึงทำให้ผู้เสียหายรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า มีส่วนพัวพันและเชื่อมโยงกับกลุ่มคนที่ลอบก่อเหตุร้ายในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ในช่วงหัวรุ่งที่ผ่านมา เพื่อเป็นการตอกย้ำความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ก่อนหน้านี้ เมือเวลา 11.30 น. คนร้ายได้ปักธงชาติรัฐมาเลเซีย ที่บริเวณทางโค้งถนนบ้านจาเราะสะโตร์ ม.5 ต.กะลุวอ อ.เมือง เจ้าหน้าที่ชุด EOD นาวิกโยธิน และเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก. 33 ได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบ และได้เหยียบกับระเบิด ทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 นาย คือ จ.อ.รณรงค์ ชัยด้วยกิจ ไม่ทราบอายุ และพลทหารศุภชัย พูขมา อายุ 22 ปี สังกัด ฉก.33 ถูกนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาส และเจ้าหน้าที่พบระเบิดที่อยู่ในกล่องกระดาษอีกจำนวน จึงได้ทำการเก็บกู้และยิงทำลาย
ล่าสุด พล.ต.ต.ชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ได้สั่งการไปยัง ผู้กำกับ สารวัตรใหญ่ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ จำนวน 19 สถานี ทำการตรวจสอบภาพวงจรปิดที่ติดไว้บริเวณหน้าจุดตรวจในแต่ละพื้นที่ เพื่อตรวจสอบหาข้อพิรุธของยานพาหนะที่แล่นผ่านในช่วงเวลาใกล้เคียงกับเหตุร้ายที่เกิดขึ้น ซึ่งใช้เป็นข้อมูลในการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมาลงโทษต่อไป
รายงานจากแหล่งข่าวทางราชการรายหนึ่งแจ้งว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส เนื่องจากการทำงานด้านมวลชนยังไม่เข้าถึงประชาชนมากนัก โดยเฉพาะภาวะผู้นำของนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ที่เคยพูดว่า หญิงอิสลามแต่งกาย หรือสวมฮิญาบเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน ทำให้ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ไม่พอใจ และมองว่า ภาวะผู้นำของผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นตัวปัญหา และอาจสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้นกับพื้นที่ แม้นายอภินันท์ จะพยายามอธิบายว่า ไม่ได้พูดที่สาธารณะแต่ได้ถ่ายคลิปตนเองว่า ได้พูดจริง ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า อาจเป็นการเติมเชื้อเพลิงให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น
เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (31 ส.ค.) ร.ต.ท.วันชัย รักบุญเมือง ร้อยเวร สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่เพิงขายข้าวเหนียว และไก่ทอด ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนรือเสาะวิทยา ม.3 ต.รือเสาะออก จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบที่บริเวณริมขอบฟุตปาธมีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดได้รับความเสียหายเล็ก และมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้างที่ผลิตเอง ใส่ไว้ในกระป๋องของปลากระป๋องยี่ห้อหนึ่ง หนัก 0.5 กก. ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเจ้าของเพิงขายข้าวเหนียวไก่ทอด หลังเกิดเหตุเกิดความกลัวได้ขี่รถจักรยานยนต์หายไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบชื่อ
จากการสอบสวนทราบว่า ในระหว่างที่ผู้เสียหายกำลังยืนทอดไก่อยู่ที่เพิงนั้น ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้รถยนต์กระบะ สีบรอนซ์เงิน ไม่ทราบยี่ห้อ และแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะ เมื่อแล่นผ่านคนร้ายที่นั่งกระบะหลังได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่องชนิดขว้างที่ผลิตเอง ขว้างใส่เพิงขายข้าวเหนียวและไก่ทอด แต่ระเบิดได้ตกบริเวณริมฟุตปาธ จึงทำให้ผู้เสียหายรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า มีส่วนพัวพันและเชื่อมโยงกับกลุ่มคนที่ลอบก่อเหตุร้ายในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ในช่วงหัวรุ่งที่ผ่านมา เพื่อเป็นการตอกย้ำความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ก่อนหน้านี้ เมือเวลา 11.30 น. คนร้ายได้ปักธงชาติรัฐมาเลเซีย ที่บริเวณทางโค้งถนนบ้านจาเราะสะโตร์ ม.5 ต.กะลุวอ อ.เมือง เจ้าหน้าที่ชุด EOD นาวิกโยธิน และเจ้าหน้าที่ทหาร ฉก. 33 ได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบ และได้เหยียบกับระเบิด ทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 2 นาย คือ จ.อ.รณรงค์ ชัยด้วยกิจ ไม่ทราบอายุ และพลทหารศุภชัย พูขมา อายุ 22 ปี สังกัด ฉก.33 ถูกนำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาส และเจ้าหน้าที่พบระเบิดที่อยู่ในกล่องกระดาษอีกจำนวน จึงได้ทำการเก็บกู้และยิงทำลาย
ล่าสุด พล.ต.ต.ชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส ได้สั่งการไปยัง ผู้กำกับ สารวัตรใหญ่ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ จำนวน 19 สถานี ทำการตรวจสอบภาพวงจรปิดที่ติดไว้บริเวณหน้าจุดตรวจในแต่ละพื้นที่ เพื่อตรวจสอบหาข้อพิรุธของยานพาหนะที่แล่นผ่านในช่วงเวลาใกล้เคียงกับเหตุร้ายที่เกิดขึ้น ซึ่งใช้เป็นข้อมูลในการติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมาลงโทษต่อไป
รายงานจากแหล่งข่าวทางราชการรายหนึ่งแจ้งว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส เนื่องจากการทำงานด้านมวลชนยังไม่เข้าถึงประชาชนมากนัก โดยเฉพาะภาวะผู้นำของนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ที่เคยพูดว่า หญิงอิสลามแต่งกาย หรือสวมฮิญาบเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน ทำให้ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ไม่พอใจ และมองว่า ภาวะผู้นำของผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นตัวปัญหา และอาจสร้างเงื่อนไขให้เกิดขึ้นกับพื้นที่ แม้นายอภินันท์ จะพยายามอธิบายว่า ไม่ได้พูดที่สาธารณะแต่ได้ถ่ายคลิปตนเองว่า ได้พูดจริง ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า อาจเป็นการเติมเชื้อเพลิงให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น