พัทลุง - ชุดเสือไฟจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช 300 นายยังคงเดินหน้าดับไฟใต้ดินที่ยังคุกรุ่นในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ขณะที่ชุดทวงคืนป่าพรุเร่งตรวจสอบที่ดินถูกบุกรุก 9 แปลงกว่า 400 ไร่ จากที่มีการบุกรุกกว่า 10,000 ไร่ เผยที่ อ.ระโนด จ.สงขลา มีการใช้ ส.ค.บินมากที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เจ้าหน้าที่ชุดเสือไฟจากส่วนกลางของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำนวน 300 นาย ยังคงเดินหน้าดับไฟใต้ดินที่ยังคุกรุ่นในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ที่บริเวณทุ่งหญ้าป่าราโพ และเสม็ดขาว ใกล้พื้นที่แรมซ่าไซร์ หรือพื้นที่ชุ่มน้ำโลกแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งกองไฟยังติดตอไม้เสม็ดขาวห่างจากจุดไข่แดงประมาณ 2 กม.ในท้องที่หมู่ 4 ต.ทะเลน้อย โดยบริเวณดังกล่าวเป็นแหล่งหากินทำรังวางไข่ของนกอพยพ และนกประจำถิ่นกว่า 140 ชนิด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดควบคุมไฟป่าจากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชพร้อมอุปกรณ์ครบมือ ได้นำอุปกรณ์ดับไฟ เครื่องสูบน้ำนั่งเรือลงพื้นที่เพื่อดับไฟ เพราะหวั่นจะเกิดไฟลุกลามซ้ำ เนื่องจากสภาพพื้นที่เริ่มร้อนแห้งแล้งอีกครั้ง ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจทำให้ไฟโหม หรือปะทุขึ้นมาอีก
ในขณะที่นายจำนง กลายเจริญ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลหลวง หัวหน้าชุดตรวจสอบพื้นที่เพื่อทวงคืนป่าพรุทะเลน้อย ในท้องที่ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง จำนวน 9 แปลง เนื้อที่กว่า 400 ไร่ทีเป็นของนายทุน ข้าราชการและชาวบ้าน ได้เร่งตรวจสอบแล้วเสร็จพร้อมทำเรื่องเสนอรายงานผลให้แก่คณะทำงานส่วนกลางและที่ดินจังหวัด โดยบางแปลงพบว่ามีหลักฐานโฉนด น.ส.3 ก ไม่ตรงกับต้นขั้ว และสำหรับพื้นที่บุกรุก และมีการออกโฉนดโดยมิชอบในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยมีทั้งสิ้นกว่า 10,000 ไร่ ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขต ต.บ้านขาว อ.ระโนด จ.สงขลา ที่มีการออก ส.ค.บินมากที่สุด