พัทลุง - เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยไฟป่าเข้าดับไฟป่าที่ยังคุกรุ่นในพื้นที่ป่าพรุทะเลน้อย เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟใต้ดิน พร้อมทั้งนำเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่ป่าพรุ
สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง แม้จะดับสนิทไปแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้และหน่วยไฟป่าได้สร้างแนวกันไฟ และโชคดีที่มีฝนตกในพื้นที่ แต่จากการสำรวจล่าสุด หลังฝนได้หยุดตกยังพบไฟใต้ดินยังคงคุกรุ่นในบางจุด โดยเฉพาะบริเวณใกล้กับเขตพื้นที่ชุ่มน้ำโลก หรือพื้นที่แรมซาไซร์ที่เป็นแหล่งทำรังของนกน้ำอพยพ และนกประจำถิ่น
ทางเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยยังคงเร่งนำน้ำไปช่วยกับดับไฟ เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟใต้ดิน พร้อมทั้งนำเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่ป่าพรุ เพื่อสำรวจจุดที่มีความล่อแหลมต่อการเกิดไฟไหม้ และยังนำเครื่องบินมาช่วยดับไฟ โดยการใช้ใบพัดของเครื่องบินพัดกระแสลมให้พัดพาขี้เถ้าที่หนากว่า 30 ซม. ออก ก่อนที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินจะนำน้ำเข้าไปดับ
ด้านนายชาย สุวรรณชาติ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยพัทลุง พร้อมกำลัง ได้นั่งเรือออกไปสำรวจความเสียหายของป่าพรุที่ถูกไฟไหม้ ล่าสุด ที่บริเวณคลองหน้าแหลม หมู่ที่ 4 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านแอบจุดไฟเผาป่าครั้งล่าสุด เมื่อเดินทางไปถึงก็พบว่า เส้นทางล่องเรือเข้าพื้นที่ถูกชาวบ้านที่จับจองที่ดินไว้ได้สร้างรั้วปิดในลำคลอง พร้อมทั้งปิดป้ายห้ามเข้าเป็นสถานที่ส่วนบุคคล เมื่อได้รื้อรั้วนั่งเรือเข้าไปสำรวจในป่าก็พบว่า ป่าพรุถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างกว่า 60 ไร่ มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท และไฟใต้ดินยังคุกรุ่นในบางจุด
โดยนายชาย ระบุว่า ในเบื้องต้น ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของชาวบ้านในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสำรวจว่ามีการถือครองโดยถูกต้องกฎหมายหรือไม่ และมีการแปรสภาพพื้นที่เพื่อทำการเกษตร แต่ยังอยู่ใจกลางเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย และทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้สั่งให้เร่งตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว หากพบว่ากระทำผิด หรือได้ ส.ค.1 มาโดยมิชอบก็จะรื้อถอนทันที
สถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง แม้จะดับสนิทไปแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้และหน่วยไฟป่าได้สร้างแนวกันไฟ และโชคดีที่มีฝนตกในพื้นที่ แต่จากการสำรวจล่าสุด หลังฝนได้หยุดตกยังพบไฟใต้ดินยังคงคุกรุ่นในบางจุด โดยเฉพาะบริเวณใกล้กับเขตพื้นที่ชุ่มน้ำโลก หรือพื้นที่แรมซาไซร์ที่เป็นแหล่งทำรังของนกน้ำอพยพ และนกประจำถิ่น
ทางเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยยังคงเร่งนำน้ำไปช่วยกับดับไฟ เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟใต้ดิน พร้อมทั้งนำเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่ป่าพรุ เพื่อสำรวจจุดที่มีความล่อแหลมต่อการเกิดไฟไหม้ และยังนำเครื่องบินมาช่วยดับไฟ โดยการใช้ใบพัดของเครื่องบินพัดกระแสลมให้พัดพาขี้เถ้าที่หนากว่า 30 ซม. ออก ก่อนที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินจะนำน้ำเข้าไปดับ
ด้านนายชาย สุวรรณชาติ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยพัทลุง พร้อมกำลัง ได้นั่งเรือออกไปสำรวจความเสียหายของป่าพรุที่ถูกไฟไหม้ ล่าสุด ที่บริเวณคลองหน้าแหลม หมู่ที่ 4 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน ซึ่งเป็นจุดที่ชาวบ้านแอบจุดไฟเผาป่าครั้งล่าสุด เมื่อเดินทางไปถึงก็พบว่า เส้นทางล่องเรือเข้าพื้นที่ถูกชาวบ้านที่จับจองที่ดินไว้ได้สร้างรั้วปิดในลำคลอง พร้อมทั้งปิดป้ายห้ามเข้าเป็นสถานที่ส่วนบุคคล เมื่อได้รื้อรั้วนั่งเรือเข้าไปสำรวจในป่าก็พบว่า ป่าพรุถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างกว่า 60 ไร่ มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท และไฟใต้ดินยังคุกรุ่นในบางจุด
โดยนายชาย ระบุว่า ในเบื้องต้น ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของชาวบ้านในพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสำรวจว่ามีการถือครองโดยถูกต้องกฎหมายหรือไม่ และมีการแปรสภาพพื้นที่เพื่อทำการเกษตร แต่ยังอยู่ใจกลางเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย และทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้สั่งให้เร่งตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว หากพบว่ากระทำผิด หรือได้ ส.ค.1 มาโดยมิชอบก็จะรื้อถอนทันที
