นราธิวาส - อ.สุไหงโก-ลก ยึดหลักความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว จัดพื้นที่เซฟตี้โซน วอนประชาชนเข้าใจ และให้ความร่วมมือ ด้านชาวมาเลเซียมีความมั่นใจที่จะเข้ามาเที่ยวมากขึ้น
วันนี้ (29 ส.ค.) นายจำนัล เหมือนดำ นายอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวถึงการจัดพื้นที่เซฟตี้โซน ที่ได้ดำเนินการในเขตเขตเศรษฐกิจพื้นที่ชั้นในของอำเภอสุไหงโก-ลกมาระยะหนึ่งแล้วว่า ขณะนี้ ฝ่ายความมั่นคงได้จัดระเบียบการจราจรในบางเส้นทางเพื่อให้มาตรการการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีเสียงสะท้อนจากภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอดเกี่ยวกับผลกระทบด้านการค้า รวมถึงความไม่สะดวกในการเดินทางในพื้นที่การจัดพื้นที่เซฟตี้โซนดังกล่าว
โดยนายอำเภอสุไหงโก-ลก ระบุว่า ทางอำเภอพร้อมน้อมรับกับความคิดเห็นในทุกกรณี และจะนำมาพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก ขณะที่อัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดก็ต้องมีการกระจายกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่ โดยเมื่อมีการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยด้วยการเพิ่มพื้นที่เซฟตี้โซนก็ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักมากขึ้นด้วยเช่นกัน
โอกาสนี้จึงวอนประชาชนเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรการในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ให้สามารถป้องกันความเสี่ยงในการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งประชาชนในพื้นที่เองก็ต้องมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ โดยการเสียสละ หรือยอมรับความเปลี่ยนแปลงบ้างแต่มั่นใจว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นเพียงส่วนที่เล็กน้อยเมื่อเทียบกับสถานการณ์ความไม่สงบที่หากเกิดขึ้น ก็จะมีความสูญเสียตามมาอีกมาก ดังนั้น จึงอยากเห็นความร่วมมือร่วมใจในการสนับสนุนให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นบ้านของทุกคน เพราะเมื่อพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลกสงบสุข มาตรการความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ นายอำเภอสุไหงโก-ลก ยังกล่าวถึงนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ด้วยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเสียงสะท้อนจากกลุ่มบุคคลเหล่านี้ โดยส่วนหนึ่งเห็นว่าเมื่อเปรียบเทียบความเข้มงวดของการบังคับใช้กฎหมาย หรือการจัดการจราจรใน 2 ประเทศจะพบว่า ประเทศมาเลเซียมีการบังคับใช้กฎหมายที่มีความเข้มงวดมากกว่า และชาวมาเลเซียก็ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดจนเกิดความเคยชิน ดังนั้น เมื่อ อ.สุไหงโก-ลก มีการจัดระเบียบพื้นที่เซฟตี้โซนจึงเป็นเรื่องปกติที่ชาวมาเลเซียที่เข้ามา ก็ต่างยินดีที่จะปฏิบัติตามกฎจราจรนี้ด้วย และเชื่อว่า การจัดพื้นที่เซฟตี้โซนจะทำให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมีความมั่นใจที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่มากยิ่งขึ้น
วันนี้ (29 ส.ค.) นายจำนัล เหมือนดำ นายอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวถึงการจัดพื้นที่เซฟตี้โซน ที่ได้ดำเนินการในเขตเขตเศรษฐกิจพื้นที่ชั้นในของอำเภอสุไหงโก-ลกมาระยะหนึ่งแล้วว่า ขณะนี้ ฝ่ายความมั่นคงได้จัดระเบียบการจราจรในบางเส้นทางเพื่อให้มาตรการการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ก็มีเสียงสะท้อนจากภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอดเกี่ยวกับผลกระทบด้านการค้า รวมถึงความไม่สะดวกในการเดินทางในพื้นที่การจัดพื้นที่เซฟตี้โซนดังกล่าว
โดยนายอำเภอสุไหงโก-ลก ระบุว่า ทางอำเภอพร้อมน้อมรับกับความคิดเห็นในทุกกรณี และจะนำมาพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามความเหมาะสมโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นหลัก ขณะที่อัตรากำลังของเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดก็ต้องมีการกระจายกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่ โดยเมื่อมีการปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยด้วยการเพิ่มพื้นที่เซฟตี้โซนก็ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักมากขึ้นด้วยเช่นกัน
โอกาสนี้จึงวอนประชาชนเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้มาตรการในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ให้สามารถป้องกันความเสี่ยงในการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งประชาชนในพื้นที่เองก็ต้องมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ โดยการเสียสละ หรือยอมรับความเปลี่ยนแปลงบ้างแต่มั่นใจว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นเพียงส่วนที่เล็กน้อยเมื่อเทียบกับสถานการณ์ความไม่สงบที่หากเกิดขึ้น ก็จะมีความสูญเสียตามมาอีกมาก ดังนั้น จึงอยากเห็นความร่วมมือร่วมใจในการสนับสนุนให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นบ้านของทุกคน เพราะเมื่อพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลกสงบสุข มาตรการความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ นายอำเภอสุไหงโก-ลก ยังกล่าวถึงนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ด้วยว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเสียงสะท้อนจากกลุ่มบุคคลเหล่านี้ โดยส่วนหนึ่งเห็นว่าเมื่อเปรียบเทียบความเข้มงวดของการบังคับใช้กฎหมาย หรือการจัดการจราจรใน 2 ประเทศจะพบว่า ประเทศมาเลเซียมีการบังคับใช้กฎหมายที่มีความเข้มงวดมากกว่า และชาวมาเลเซียก็ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดจนเกิดความเคยชิน ดังนั้น เมื่อ อ.สุไหงโก-ลก มีการจัดระเบียบพื้นที่เซฟตี้โซนจึงเป็นเรื่องปกติที่ชาวมาเลเซียที่เข้ามา ก็ต่างยินดีที่จะปฏิบัติตามกฎจราจรนี้ด้วย และเชื่อว่า การจัดพื้นที่เซฟตี้โซนจะทำให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมีความมั่นใจที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่มากยิ่งขึ้น