ระนอง - กอ.รมน. ย้ำแผนบูรณาการปฏิบัติต่อโรฮิงญาทางชายฝั่งระนอง เน้นผลักดันตามหลักสิทธิมนุษยชน
พล.ต.ทวีป บุญมา รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. กล่าวถึง ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 ซึ่งทาง กอ.รมน. ได้จัดขึ้นเพื่อหารือถึงแผนการปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองที่เดินทางเข้ามาทางชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ระนอง โดยมีหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ทหาร ตำรวจ และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือแบบบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมว่า
แนวทางการปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองที่เข้ามาทางชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ระนอง ทาง กอ.รมน.เป็นหน่วยงานหลัก และต้องทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันในการผลักดันชาวโรฮิงญาที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศที่สาม ซึ่งจะใช้หลักการที่รัฐบาลให้ปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเล โดยคำนึงถึงด้านผลประโยชน์ของชาติ ด้านสิทธิมนุษยธรรม ด้านความมั่นคง และอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เพื่อให้ผู้หลบหนีเข้าเมืองที่เข้ามาทางทะเลได้เดินทางต่อไปยังประเทศที่สามที่ต้องการได้
รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาในการผลักดัน เนื่องจากผู้หลบหนีเข้าเมืองเหล่านี้ใช้ประเทศไทยเป็นเพียงเส้นทางผ่านเท่านั้น จึงทำให้ไม่มีการท้วงติงจากองค์กรระหว่างประเทศ พร้อมยืนยันว่า จะต้องมีความเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้น เนื่องจากคาดว่าในปีนี้จะมีผู้หลบหนีเข้าเมืองเดินทางเข้ามาทางชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ระนอง มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และจากการตรวจสอบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ขณะนี้มีผู้หลบหนีเข้าเมืองเดินทางเข้ามาประมาณ 300 คนเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีจำนวนมากถึง 30,000 คนตามที่เป็นข่าว
พล.ต.ทวีป บุญมา รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. กล่าวถึง ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 ซึ่งทาง กอ.รมน. ได้จัดขึ้นเพื่อหารือถึงแผนการปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองที่เดินทางเข้ามาทางชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ระนอง โดยมีหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ทหาร ตำรวจ และส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมหารือแบบบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมว่า
แนวทางการปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองที่เข้ามาทางชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ระนอง ทาง กอ.รมน.เป็นหน่วยงานหลัก และต้องทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันในการผลักดันชาวโรฮิงญาที่ต้องการเดินทางไปยังประเทศที่สาม ซึ่งจะใช้หลักการที่รัฐบาลให้ปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเล โดยคำนึงถึงด้านผลประโยชน์ของชาติ ด้านสิทธิมนุษยธรรม ด้านความมั่นคง และอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เพื่อให้ผู้หลบหนีเข้าเมืองที่เข้ามาทางทะเลได้เดินทางต่อไปยังประเทศที่สามที่ต้องการได้
รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กอ.รมน. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาในการผลักดัน เนื่องจากผู้หลบหนีเข้าเมืองเหล่านี้ใช้ประเทศไทยเป็นเพียงเส้นทางผ่านเท่านั้น จึงทำให้ไม่มีการท้วงติงจากองค์กรระหว่างประเทศ พร้อมยืนยันว่า จะต้องมีความเข้มงวดในการตรวจสอบมากขึ้น เนื่องจากคาดว่าในปีนี้จะมีผู้หลบหนีเข้าเมืองเดินทางเข้ามาทางชายฝั่งทะเลอันดามัน จ.ระนอง มากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และจากการตรวจสอบทุกจังหวัดทั่วประเทศ ขณะนี้มีผู้หลบหนีเข้าเมืองเดินทางเข้ามาประมาณ 300 คนเท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีจำนวนมากถึง 30,000 คนตามที่เป็นข่าว