ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ท่าอากาศยานภูเก็ตซ้อมแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน จำลองเหตุการณ์ลอบวางระเบิดรถยนต์ และซุกซ่อนระเบิดไว้ภายในอาคาร เพื่อเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่รับมือหากเกิดเหตุการณ์จริง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยว
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่ท่าอากาศยานภูเก็ต บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำการฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินบางส่วนตามแผนฉุกเฉิน ประจำปี 2555 ภายใต้ชื่อ PEMEX 2012 โดยได้จำลองเหตุการณ์การวางระเบิดรถยนต์ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถยนต์ อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมีนายสุทีพ แสนศิริพันธุ์ รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต (ฝ่ายอำนวยการ) เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อม และมีเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมฝึกซ้อม
การฝึกซ้อมได้สมมติเหตุการณ์ว่ามีการวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 1 ลูก ภายในรถยนต์กระบะ สีน้ำเงิน ทะเบียน กค 7735 ภูเก็ต ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถยนต์ อาคารอเนกประสงค์ ท่าอากาศยานภูเก็ต เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน หรือ EOD ของท่าอากาศยานภูเก็ต ได้เข้าตรวจสอบ และทำการเก็บกู้วัตถุระเบิดดังกล่าวได้สำเร็จ แต่ขณะเดียวกันก็มีระเบิดอีก 1 ลูก ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในอาคารได้ระเบิดขึ้น และมีเพลิงลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ได้ระดมรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุเป็นการด่วนจนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกสะเก็ดระเบิด จำนวน 2 ราย และเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานภูเก็ต และโรงพยาบาลถลางได้เข้าให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลถลาง
นายสุทีพ กล่าวว่า การฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินบางส่วนตามแผนฉุกเฉินในครั้งนี้ เป็นการฝึกซ้อมร่วมกันทุกหน่วยภายใต้การจำลองสถานการณ์เหมือนจริง คือ การวางระเบิดรถยนต์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินหากเกิดกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ที่กำหนดให้ท่าอากาศยานของรัฐภาคี จัดให้มีแผนฉุกเฉิน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานหากเกิดเหตุการณ์จริง และให้มีการดำเนินการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ อย่างน้อย 1 ครั้ง ทุก 2 ปี สลับการฝึกซ้อมบางส่วนอย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานภูเก็ต และหน่วยงานเกี่ยวข้องปฏิบัติงานได้อย่างแม่นยำเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นในท่าอากาศยานภูเก็ต
นายสุทีพ กล่าวอีกว่า การฝึกซ้อมฯ ในครั้งนี้ ได้ดำเนินการให้มีความสมจริงมากที่สุด และสามารถนำไปสู่การปฏิบัติรองรับเหตุฉุกเฉินได้ในสถานการณ์จริง ภายใต้นโยบายของท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญในการปฏิบัติงาน ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจท่าอากาศยานมาโดยตลอด
