ตรัง - สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง จี้ให้ทบทวนประกาศปิดเกาะเชือกไม่มีกำหนด ด้านนักวิชาการค้านหวั่นมีผลกระทบต่อปะการังที่เคยเสียหายจากปรากฏการณ์ฟอกขาว เมื่อ 3 ปีก่อน
นายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จากกรณีที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว ในท้องทะเลฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย ทำให้ปะการัง และสัตว์น้ำอื่นๆ ตายลงไปจำนวนมาก ซึ่งได้ส่งผลกระทบทำให้ระบบนิเวศในท้องทะเลเปลี่ยนแปลง โดยในส่วนของท้องทะเลตรัง โดยเฉพาะที่เกาะเชือก ซึ่งเป็น 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่สวยงามมาก รองลงมาจากถ้ำมรกต และเกาะกระดาน เนื่องจากเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวมักนิยมมาดำน้ำดูปะการัง
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้มีประกาศปิดเกาะเชือกอย่างไม่มีกำหนด ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังเป็นอย่างมาก เพราะจากเดิมในโปรแกรมท่องเที่ยวทะเลแบบวันเดย์ทัวร์ จะมีการนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยว 4 แห่ง แต่เมื่อมีการประกาศปิดเกาะเชือกแล้ว จึงทำให้เหลือแหล่งท่องเที่ยว 3 แห่ง คือ เกาะกระดาน ถ้ำมรกต และเกาะม้า ทางสมาคมจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเปิดเกาะเชือก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวนี้
นายอาลาดีน ปากบารา เจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษา และวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ในช่วงดังกล่าวทั้งท้องทะเลฝั่งอันดามัน และอ่าวไทยเกิดปะการังฟอกขาวทั้งหมดถึงร้อยละ 90 ส่วนพื้นที่เกาะเชือก บริเวณฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมลงไปเล่นน้ำ จากการสำรวจเมื่อปี 2553 มีปะการังฟอกขาว ร้อยละ 85 แต่ในปี 2554 มีสัดส่วนลดลงเหลือร้อยละ 80 และในปี 2555 ยังมีปะการังฟอกขาวอีกร้อยละ 65 ส่วนใหญ่เป็นปะการังเขากวาง ปะการังโชค ปะการังผักกาด และปะการังเคลือบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการประกาศปิดเกาะเชือกนั้น ได้ส่งผลดีทำให้ปะการังเริ่มฟื้นตัว และมีปะการังวัยอ่อนอายุ 1-2 ปี เกิดขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่บริเวณเกาะกระดาน และเกาะเชือก ดังนั้น จึงเห็นควรปิดการท่องเที่ยวต่อไปอีกประมาณ 4-5 ปี เพื่อไม่ให้ไปรบกวน และให้เกิดการฟื้นตัว เพราะกว่าปะการังจะเติบโตได้ยาวถึง 7-10 ซม. ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ ผู้ประกอบการจึงควรจะเลี่ยงไปใช้แหล่งท่องเที่ยวอื่น ซึ่งยังมีอีกหลายแห่งที่มีศักยภาพสูงไม่แพ้เกาะเชือก และหากมีการชี้แจงให้ชัดเจนนักท่องเที่ยวก็คงเข้าใจ
ทั้งนี้ นอกจากปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว จะทำให้ปะการังฟื้นตัวได้ช้าแล้ว พฤติกรรมที่นักท่องเที่ยวชอบนำขนมปังโยนให้อาหารปลาลงในท้องทะเล ก็ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ไปเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินอาหารของปลา เพราะจะทำให้ปลาไม่ยอมไปกินสาหร่ายที่ขึ้นปกคลุมบนแนวปะการัง ทำให้ปะการังเติบโตและฟื้นตัวได้ช้า เพราะการที่ปลากินสาหร่ายที่ขึ้นปกคลุมบนแนวปะการังนั้นจะช่วยเป็นการเปิดพื้นที่ให้ตัวอ่อนของปะการังมีโอกาสเจริญเติบโตได้ดีกว่า
นายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จากกรณีที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว ในท้องทะเลฝั่งอันดามัน และอ่าวไทย ทำให้ปะการัง และสัตว์น้ำอื่นๆ ตายลงไปจำนวนมาก ซึ่งได้ส่งผลกระทบทำให้ระบบนิเวศในท้องทะเลเปลี่ยนแปลง โดยในส่วนของท้องทะเลตรัง โดยเฉพาะที่เกาะเชือก ซึ่งเป็น 1 ในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่สวยงามมาก รองลงมาจากถ้ำมรกต และเกาะกระดาน เนื่องจากเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวมักนิยมมาดำน้ำดูปะการัง
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้มีประกาศปิดเกาะเชือกอย่างไม่มีกำหนด ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดตรังเป็นอย่างมาก เพราะจากเดิมในโปรแกรมท่องเที่ยวทะเลแบบวันเดย์ทัวร์ จะมีการนำนักท่องเที่ยวไปเที่ยว 4 แห่ง แต่เมื่อมีการประกาศปิดเกาะเชือกแล้ว จึงทำให้เหลือแหล่งท่องเที่ยว 3 แห่ง คือ เกาะกระดาน ถ้ำมรกต และเกาะม้า ทางสมาคมจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเปิดเกาะเชือก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวนี้
นายอาลาดีน ปากบารา เจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษา และวิจัยอุทยานแห่งชาติทางทะเลจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ในช่วงดังกล่าวทั้งท้องทะเลฝั่งอันดามัน และอ่าวไทยเกิดปะการังฟอกขาวทั้งหมดถึงร้อยละ 90 ส่วนพื้นที่เกาะเชือก บริเวณฝั่งตะวันตก ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมลงไปเล่นน้ำ จากการสำรวจเมื่อปี 2553 มีปะการังฟอกขาว ร้อยละ 85 แต่ในปี 2554 มีสัดส่วนลดลงเหลือร้อยละ 80 และในปี 2555 ยังมีปะการังฟอกขาวอีกร้อยละ 65 ส่วนใหญ่เป็นปะการังเขากวาง ปะการังโชค ปะการังผักกาด และปะการังเคลือบ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีการประกาศปิดเกาะเชือกนั้น ได้ส่งผลดีทำให้ปะการังเริ่มฟื้นตัว และมีปะการังวัยอ่อนอายุ 1-2 ปี เกิดขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่บริเวณเกาะกระดาน และเกาะเชือก ดังนั้น จึงเห็นควรปิดการท่องเที่ยวต่อไปอีกประมาณ 4-5 ปี เพื่อไม่ให้ไปรบกวน และให้เกิดการฟื้นตัว เพราะกว่าปะการังจะเติบโตได้ยาวถึง 7-10 ซม. ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ ผู้ประกอบการจึงควรจะเลี่ยงไปใช้แหล่งท่องเที่ยวอื่น ซึ่งยังมีอีกหลายแห่งที่มีศักยภาพสูงไม่แพ้เกาะเชือก และหากมีการชี้แจงให้ชัดเจนนักท่องเที่ยวก็คงเข้าใจ
ทั้งนี้ นอกจากปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว จะทำให้ปะการังฟื้นตัวได้ช้าแล้ว พฤติกรรมที่นักท่องเที่ยวชอบนำขนมปังโยนให้อาหารปลาลงในท้องทะเล ก็ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ไปเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินอาหารของปลา เพราะจะทำให้ปลาไม่ยอมไปกินสาหร่ายที่ขึ้นปกคลุมบนแนวปะการัง ทำให้ปะการังเติบโตและฟื้นตัวได้ช้า เพราะการที่ปลากินสาหร่ายที่ขึ้นปกคลุมบนแนวปะการังนั้นจะช่วยเป็นการเปิดพื้นที่ให้ตัวอ่อนของปะการังมีโอกาสเจริญเติบโตได้ดีกว่า