กระบี่ - ม็อบสวนปาล์มหมดอายุสัมปทานกระบี่เฮ! รองอธิบดีกรมป่าไม้ ลงพื้นที่รับทราบความเดือดร้อน พร้อมรับปากจะดำเนินการจัดสรรที่ดินตามข้อเรียกร้อง ส่วนหมายแกนนำจับว่าไปตามกฎหมาย ยินยอมเปิดทางเข้าออกให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้สำรวจพื้นที่แล้ว
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ ( 25 ส.ค.) นายยงยุทธ หล่อสุวรรณศิริ รองอธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้จำนวนกว่า 300 นาย เดินทางเข้าพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันขาดอายุสัมปทาน บริษัท กระบี่รวมภัณฑ์ จำกัด ม.6 ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เพื่อเข้าเจรจากับกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ทำกิน ที่เข้ามายึดพื้นที่ปักหลักปลูกสร้างที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ และเรียกร้องให้รัฐจัดสรรที่ดินทำกินให้เกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินทำกินยืดเยื้อมานานกว่า 4 เดือนแล้ว
โดยปัจจุบัน ได้มีการปลูกสร้างบ้าน และที่พักแล้วรวมจำนวนกว่า 400 หลัง มีประชาชนจากจังหวัดกระบี่ และจังหวัดใกล้เคียงเข้ามาอาศัยอยู่จำนวนกว่า 1,000 คน เมื่อไปถึง นายยงยุทธ ก็ได้เข้าพบกับนายสุมนตรี สุขดำ แกนนำกลุ่มเกษตรกรสิทธิชุมชนไร้ที่ทำกิน โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้คอยรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณทางเข้า และรอบๆ สวนปาล์ม เนื่องจากมีประชาชนทยอยเดินทางมาสมทบจำนวนมาก
นายยงยุทธ กล่าวว่า การเดินทางเข้ามาพบชาวบ้านในวันนี้ เพื่อสอบถามความต้องการของชาวบ้านที่เข้ามาศัยอยู่ในพื้นที่ และขอความร่วมมือให้กลุ่มแกนนำ รวบรวมรายชื่อชาวบ้านที่เข้าไปอาศัยอยู่ภายในม็อบสวนปาล์มน้ำมันขาดอายุสัมปทาน ว่ามีอยู่จำนวนกี่คน มาจากที่ไหนบ้าง พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบางจุด เช่น รั้วกั้นทางเข้า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้เข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ได้สะดวก และไม่ทำลายผลอาสิน หรือทำสิ่งผิดกฎหมาย หากจะเก็บเกี่ยวผลปาล์มในพื้นที่ก็ต้องยื่นเรื่องขออนุญาตเก็บหาของป่าจากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ก่อน
นายยงยุทธ เปิดเผยอีกว่า หลังจากนี้จะได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าที่ 12 สาขากระบี่ นำรายชื่อชาวบ้านที่เข้าอาศัยในพื้นที่ ผู้ไม่มีที่ทำกินจริงๆ เข้าในที่ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอให้ดำเนินการจัดสรรที่ดินตามข้อเรียกร้องของชาวบ้าน โดยยึดตามมติ ครม.2546 และนำข้อสรุปในที่ประชุมเสนอไปยังอธิบกรมป่าไม้ เพื่อพิจารณาดำเนินการจัดสรรที่ดินให้ประชาชน ส่วนในเรื่องของคดีที่มีการออกหมายจับแกนนำ ก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
กลุ่มชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ส่งเสียงปรบมือด้วยความพอใจ และยินดีให้เจ้าหน้าที่เข้าสำรวจพื้นที่ และจะดำเนินการขออนุญาตเก็บหาของป่าต่อไป
