ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “ไทเกอร์ดิสโก้เธค” พร้อมจ่ายเงินชดเชยเหยื่อเพลิงไหม้ ระบุเสียชีวิตเบื้องต้นจ่ายรายละ 1 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของผู้ได้รับบาดเจ็บจ่ายตามจริง พร้อมเงินค่าทำขวัญ ขณะที่เทศบาลเมืองป่าตองติดประกาศห้ามใช้อาคารแล้ว
นายเสมา สินไชย ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทในเครือ ไทเกอร์ กรุ๊ป กล่าวถึงการชดใช้ค่าเสียหายกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ ไทเกอร์ดิสโก้เธค ว่า ในเบื้องต้น ในส่วนของผู้เสียชีวิต ทางบริษัทจะจ่ายให้รายละ 1 ล้านบาท ซึ่งในเงินจำนวนนี้ไม่รวมค่าเดินทางของแต่ละราย ซึ่งคนไทยอาจจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยหน่อย ต่างประเทศก็จะมีค่าใช้จ่ายมากหน่อย ในส่วนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 11 ราย และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจำนวน 2 รายนั้น ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะจ่ายตามความเป็นจริง พร้อมกับเงินค่าทำขวัญซึ่งจะดูเป็นรายๆ ไป
โดยผู้ได้รับบาดเจ็บจะต้องนำเอกสารมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล หรือทรัพย์ที่ได้รับความเสียหาย มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็จะมีการลงบันทึกประจำวันเอาไว้ พร้อมทั้งจ่ายเงินต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บในส่วนของชาวต่างชาติ ขณะนี้ได้มีการส่งต่อไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่ศูนย์วิจัย โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางบริษัทก็จะจ่ายให้ทั้งหมด โดยค่าใช้จ่ายในขณะที่รักษาตัวที่จังหวัดภูเก็ตทางบริษัทก็ได้จ่ายเรียบร้อยหมดแล้ว และในการส่งตัวไปที่กรุงเทพฯ การเดินทางไปโดยเครื่องบินนั้นมีค่าใช้จ่ายจำนวน 5 แสนบาท ทางบริษัทก็จ่ายไปแล้วด้วย ส่วนของน.ส.สุรีย์ ดียิ่ง ซึ่งได้รับบาดเจ็บข้อเท้าขวาหัก ทางบริษัทก็ได้เข้าไปดูแลอย่างเต็มที่
สำหรับความคืบหน้าของการตรวจสอบอาคารนั้น วันนี้ (20 ส.ค.) นายอาจศึก เกสรศิลป์ นายช่างโยธา 4 เทศบาลเมืองป่าตอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา ได้นำคำสั่งของเทศบาลมืองป่าตอง ให้ดำเนินการแก้ไขอาคารตามมาตรา 46 วรรคหนึ่ง ในกรณีที่อาคารมีสภาพ หรืออาจมีการใช้ที่อาจเป็นภยันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน หรืออาจไม่ปลอดภัยต่ออัคคีภัย หรือก่อให้เกิดเหตุรำคาญ หรือกระทบกระเทือนต่อการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยแจ้งเจ้าของอาคาร คือ บริษัท กะตะโฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 49 ซอยบางลา ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ภูเก็ต
โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 46 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ให้เจ้าของอาคารดำเนินการแก้ไขอาคารให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน โดยในหนังสือมีข้อความแนบท้ายคือ ห้ามใช้อาคารทั้งหมด พร้อมทั้งจัดให้มีสิ่งป้องกันวัสดุร่วงหล่น หรือการพังทลายของอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ และจัดให้มีการตรวจสอบความมั่นคง แข็งแรง โดยสถาบันที่เชื่อได้เป็นผู้รับรอง และรายงานผลให้เทศบาลทราบต่อไป
นายเสมา สินไชย ผู้จัดการทั่วไปของบริษัทในเครือ ไทเกอร์ กรุ๊ป กล่าวถึงการชดใช้ค่าเสียหายกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ ไทเกอร์ดิสโก้เธค ว่า ในเบื้องต้น ในส่วนของผู้เสียชีวิต ทางบริษัทจะจ่ายให้รายละ 1 ล้านบาท ซึ่งในเงินจำนวนนี้ไม่รวมค่าเดินทางของแต่ละราย ซึ่งคนไทยอาจจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยหน่อย ต่างประเทศก็จะมีค่าใช้จ่ายมากหน่อย ในส่วนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 11 ราย และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจำนวน 2 รายนั้น ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะจ่ายตามความเป็นจริง พร้อมกับเงินค่าทำขวัญซึ่งจะดูเป็นรายๆ ไป
โดยผู้ได้รับบาดเจ็บจะต้องนำเอกสารมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล หรือทรัพย์ที่ได้รับความเสียหาย มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็จะมีการลงบันทึกประจำวันเอาไว้ พร้อมทั้งจ่ายเงินต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บในส่วนของชาวต่างชาติ ขณะนี้ได้มีการส่งต่อไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ที่ศูนย์วิจัย โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางบริษัทก็จะจ่ายให้ทั้งหมด โดยค่าใช้จ่ายในขณะที่รักษาตัวที่จังหวัดภูเก็ตทางบริษัทก็ได้จ่ายเรียบร้อยหมดแล้ว และในการส่งตัวไปที่กรุงเทพฯ การเดินทางไปโดยเครื่องบินนั้นมีค่าใช้จ่ายจำนวน 5 แสนบาท ทางบริษัทก็จ่ายไปแล้วด้วย ส่วนของน.ส.สุรีย์ ดียิ่ง ซึ่งได้รับบาดเจ็บข้อเท้าขวาหัก ทางบริษัทก็ได้เข้าไปดูแลอย่างเต็มที่
สำหรับความคืบหน้าของการตรวจสอบอาคารนั้น วันนี้ (20 ส.ค.) นายอาจศึก เกสรศิลป์ นายช่างโยธา 4 เทศบาลเมืองป่าตอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา ได้นำคำสั่งของเทศบาลมืองป่าตอง ให้ดำเนินการแก้ไขอาคารตามมาตรา 46 วรรคหนึ่ง ในกรณีที่อาคารมีสภาพ หรืออาจมีการใช้ที่อาจเป็นภยันตรายต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน หรืออาจไม่ปลอดภัยต่ออัคคีภัย หรือก่อให้เกิดเหตุรำคาญ หรือกระทบกระเทือนต่อการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยแจ้งเจ้าของอาคาร คือ บริษัท กะตะโฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จำกัด ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 49 ซอยบางลา ถนนทวีวงศ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ ภูเก็ต
โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 46 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ให้เจ้าของอาคารดำเนินการแก้ไขอาคารให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน โดยในหนังสือมีข้อความแนบท้ายคือ ห้ามใช้อาคารทั้งหมด พร้อมทั้งจัดให้มีสิ่งป้องกันวัสดุร่วงหล่น หรือการพังทลายของอาคารที่เกิดเพลิงไหม้ และจัดให้มีการตรวจสอบความมั่นคง แข็งแรง โดยสถาบันที่เชื่อได้เป็นผู้รับรอง และรายงานผลให้เทศบาลทราบต่อไป
