พัทลุง - ไฟป่าพรุทะเลน้อยยังโหมหนักระบบนิเวศพังยับ สัตว์ป่ากว่า 1,000 ตัวหนีตายออกมาอยู่ริมป่าใกล้ชุมชน หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์จังหวัดพัทลุงเผยคุมสถานการณ์ไม่อยู่แล้ว เนื่องจากกำลัง จนท.ไม่เพียงพอ วอนชาวบ้าน และหน่วยราชการช่วยดับไฟ ขณะเดียวกัน ควันไฟส่งผลกระทบต่อชาวบ้านอย่างเห็นได้ชัด
วันนี้ (17 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พัทลุง ว่า สถานการณ์ไฟไหม้ทุ่งหญ้าและป่าพรุในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติคลองยวน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ยังคงน่าเป็นห่วง ไฟยังคงโหมแรงและลุกลามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงบ่าย กระแสลมบวกกับความแห้งแล้งของทุ่งหญ้าและป่าพรุเสม็ดขาว ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว กินบริเวณกว้าง
โดยเฉพาะที่สวนพฤกษศาสตร์พัทลุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ที่มีพื้นที่กว่า 6,000 ไร่ ถูกไฟเผาลุกลามมานานกว่า 2 สัปดาห์ และได้รับความเสียหายกินพื้นที่ไปแล้วนับพันไร่ ทำลายระบบนิเวศป่าพรุเสม็ดที่มีอายุนับร้อยปีซึ่งสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย และมีสัตว์ป่าอาศัยนานาชนิด ทั้งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และสัตว์เลื้อยคลาน รวมทั้งยังเป็นแหล่งทำรังวางไข่ของนกน้ำ ทั้งนกอพยพ และนกประจำถิ่นอีกด้วย
ในขณะเดี่ยวกัน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่าลิงแสม จำนวน 7 กลุ่ม รวมกว่า 1,000 ตัว ที่อาศัยอยู่ในป่าพรุ สวนพฤกษศาสตร์พัทลุง เมื่อแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยกลางป่าพรุถูกไฟโหมไหม้อย่างหนัก และเกิดควันไฟสีดำปกคลุมหนาแน่น ก็ต้องหนีไฟย้ายออกมาอาศัยบริเวณริมป่าใกล้บ้านเรือนประชาชนเป็นจำนวนมาก
ด้าน นายธราทร แก้วพลับ หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์จังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า สถานการณ์ไฟไหม้ป่าสวนพฤกษศาสตร์พัทลุงถึงขั้นวิกฤตแล้ว แม้จะระดมเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมไฟมานานกว่าสัปดาห์ แต่ไฟก็ยังลุกลามอย่างต่อเนื่อง จนไม่สามารถควบคุมไฟได้ ประกอบกับเจ้าหน้าที่มีน้อย และต้องลุยดับไฟทุกวันจนร่างกายอ่อนล้า จึงอยากวอนหน่วยงานราชการ และชาวบ้านจิตอาสาเข้ามาช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่ในขณะนี้โดยเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไว้นานเกินไปเชื่อว่าพื้นที่ป่าพรุเสม็ด และระบบนิเวศจะได้รับความเสียหายไปมากกว่านี้อย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงค่ำที่ผ่านมา (16 ส.ค.) หลังกระแสลมเริ่มลดลง ทำให้ควันไฟสีดำ และสีขาวแผ่ปกคลุมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ต.พนางตุง และ ต.ทะเลน้อย จนชาวบ้านบริเวณนั้นมีอาการปวดแสบระคายเคืองตาและแสบจมูกหายใจอึดอัด และต้องการให้ทางจังหวัดเร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน