ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังระดมกำลังติดตามจับกุมคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง “ห้างทองไทย” กะรน จ.ภูเก็ต หลังก่อเหตุหลบหนีเข้าไปในสวนยางพารา พื้นที่ ต.ราไวย์ อ.เมือง
จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 1 คน เข้าไปก่อเหตุชิงทองจากร้านทอง “ห้องทองไทย” เลขที่ 82 ถนนปฏัก ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ทองคำไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะก่อเหตุ คนร้ายถูกเจ้าของร้านใช้อาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนขวา และกระสุนปืนไปโดนกระจกร้านแตก ทำให้คนร้ายหลบหนีออกจากร้านไปได้พร้อมทองจำนวนหนึ่ง โดยขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางห้าแยกฉลอง และหลบหนีเข้าไปในซอยสุขสันต์ 1 โดยทิ้งรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุไว้ริมถนน ก่อนที่จะวิ่งหลบหนีเข้าในในสวนยางพาราข้างทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังติดตามจับกุม และปูพรมค้นหาอย่างกระชั้นชิด แต่ยังไร้วี่แวว
ล่าสุด วันนี้ (9 ส.ค.) พล.ต.ต.ชนสิษฏ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังในการติดตามจับกุมคนร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ส.ค.) ได้ระดมกำลังค้นหาปิดล้อมจนถึงเวลา 24.00 น. และเมื่อช่วงเช้า ได้มีการระดมกำลังในการปูพรมค้นหาอีกรอบ แต่ยังไม่พบตัวคนร้าย ซึ่งขณะนี้ ทราบแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร และบ้านอยู่ที่ไหน โดยมีครอบครัวอยู่ที่ภูเก็ต ทั้งพ่อแม่ และแฟนสาวของผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการติดตามค้นหาคนร้ายซึ่งเป็นคนต่างด้าวนั้น ได้มีการกระจายกำลังออกค้นหาในทุกจุด ซึ่งคนร้ายถูกเจ้าของร้านยิงได้รับบาดเจ็บด้วย และในเวลา 13.00 น.วันนี้ (9 ส.ค.) จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง นอกจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังติดตามตัวเพื่อนของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาสอบสวนด้วยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือเปล่าเนื่องจากก่อนจะเกิดเหตุ เพื่อนสนิทของคนร้ายเคยไปติดต่อซื้อทองที่ร้านดังกล่าวหลายครั้งแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะสิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง กล่าวว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า คนร้ายเป็นคนที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ กะตะ-กะรน เป็นคนสัญชาติพม่า เชื้อชาติเนปาล ซึ่งขณะนี้ ได้เชิญตัวพ่อ-แม่คนร้ายมาสอบปากคำบางส่วนแล้ว รวมทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังออกติดตามจับกุมคนร้ายอย่างกระชั้นชิด และประสานร้านขายยาในพื้นที่ทุกแห่งให้ตรวจสอบ และแจ้งเบาะแสกรณีที่มีคนมาซื้ออุปกรณ์เครื่องมือในการทำแผลให้ตำรวจทราบด้วย เนื่องจากคนร้ายที่ก่อเหตุถูกยิงได้รับบาดเจ็บไปด้วย
จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นจำนวน 1 คน เข้าไปก่อเหตุชิงทองจากร้านทอง “ห้องทองไทย” เลขที่ 82 ถนนปฏัก ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ทองคำไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งขณะก่อเหตุ คนร้ายถูกเจ้าของร้านใช้อาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บที่บริเวณแขนขวา และกระสุนปืนไปโดนกระจกร้านแตก ทำให้คนร้ายหลบหนีออกจากร้านไปได้พร้อมทองจำนวนหนึ่ง โดยขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางห้าแยกฉลอง และหลบหนีเข้าไปในซอยสุขสันต์ 1 โดยทิ้งรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุไว้ริมถนน ก่อนที่จะวิ่งหลบหนีเข้าในในสวนยางพาราข้างทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังติดตามจับกุม และปูพรมค้นหาอย่างกระชั้นชิด แต่ยังไร้วี่แวว
ล่าสุด วันนี้ (9 ส.ค.) พล.ต.ต.ชนสิษฏ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงความคืบหน้าการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมกำลังในการติดตามจับกุมคนร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา (8 ส.ค.) ได้ระดมกำลังค้นหาปิดล้อมจนถึงเวลา 24.00 น. และเมื่อช่วงเช้า ได้มีการระดมกำลังในการปูพรมค้นหาอีกรอบ แต่ยังไม่พบตัวคนร้าย ซึ่งขณะนี้ ทราบแล้วว่าคนร้ายเป็นใคร และบ้านอยู่ที่ไหน โดยมีครอบครัวอยู่ที่ภูเก็ต ทั้งพ่อแม่ และแฟนสาวของผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการติดตามค้นหาคนร้ายซึ่งเป็นคนต่างด้าวนั้น ได้มีการกระจายกำลังออกค้นหาในทุกจุด ซึ่งคนร้ายถูกเจ้าของร้านยิงได้รับบาดเจ็บด้วย และในเวลา 13.00 น.วันนี้ (9 ส.ค.) จะเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง นอกจากนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังติดตามตัวเพื่อนของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาสอบสวนด้วยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือเปล่าเนื่องจากก่อนจะเกิดเหตุ เพื่อนสนิทของคนร้ายเคยไปติดต่อซื้อทองที่ร้านดังกล่าวหลายครั้งแล้ว
ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริศักดิ์ วาสะสิริ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฉลอง กล่าวว่า จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า คนร้ายเป็นคนที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ กะตะ-กะรน เป็นคนสัญชาติพม่า เชื้อชาติเนปาล ซึ่งขณะนี้ ได้เชิญตัวพ่อ-แม่คนร้ายมาสอบปากคำบางส่วนแล้ว รวมทั้งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังออกติดตามจับกุมคนร้ายอย่างกระชั้นชิด และประสานร้านขายยาในพื้นที่ทุกแห่งให้ตรวจสอบ และแจ้งเบาะแสกรณีที่มีคนมาซื้ออุปกรณ์เครื่องมือในการทำแผลให้ตำรวจทราบด้วย เนื่องจากคนร้ายที่ก่อเหตุถูกยิงได้รับบาดเจ็บไปด้วย