ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แม่ร้องสื่อลูกสาววัย 17 ปี ถูกอาวุธสงครามยิงกลางหลัง 3 นัดตก จยย.ดับคาที่ คนขับเจ็บสาหัสอีก 1 ญาติมั่นใจเป็นฝีมือ จนท.กำลังปราบกลุ่มรถซิ่งในบริเวณใกล้เคียงกัน ระบุทำเกินกว่าเหตุ จี้หาตัวผู้ก่อเหตุ
วันนี้ (23ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าญาติของ น.ส ฐิตาภา วงษ์วิไล อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/5 ซ.พานิช ถนนไทรบุรี ต.บ่อยาง อ.เมืองสงขลา ที่ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามยิงเข้าข้างหลัง 3 นัด ตกจากรถจักรยานยนต์เสียชีวิตทันที เหตุเกิดบริเวณหน้าวัดน้ำกระจาย ถนนกาญจนวนิช ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา ขณะนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ สีชมพู ป้ายแดง โดยมี น.ส รัตติกาญจน์ ด้ามทอง อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/24 ม.3 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา เป็นคนขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว และได้รับบาดเจ็บถูกยิงเข้าด้านหลังเช่นกัน 1 นัด อาการสาหัส โดยขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลสงขลา เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ญาติผู้ตายมั่นใจว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากขณะเกิดเหตุเพื่อนผู้ตายที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เห็นเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนไล่ยิงกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่ซิ่งอยู่บริเวณห้าแยกเกาะยอ ใกล้กับที่เกิดเหตุ และญาติเกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า จึงได้ติดต่อผ่านผู้สื่อข่าวให้ช่วยติดตามคดีเพื่อจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้
โดยนางจำเนียร วงษ์วิไล มารดาของ น.ส.ฐิตาภา วงษ์วิไล กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่า ลูกสาวเรียนอยู่มหาวิทยาลัยอาชีวะสงขลา ปีที่ 3 ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นเพื่อนกับลูกสาว เรียนอยู่ที่เดียวกัน และเป็นเด็กเรียนเก่งนิสัยเรียบร้อย จึงอยากร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อว่าคดีนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่ทำเกิดกว่าเหตุ
“ทำไมต้องใช้อาวุธสงครามยิงใส่ทั้งๆ ที่เห็นแล้วว่าเป็นเด็กผู้หญิง กับการไล่จับรถซิ่งไม่กี่คันถึงกับต้องใช้อาวุธสงครามกันเลยหรือ อยากจะฝากบอกว่าแม่เลี้ยงลูกมากว่าจะเติบโตเหนื่อยแทบขาดใจ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่บ้านเมืองยิงตายโดยไม่รับผิดชอบ บ้านเมืองมีกฎหมาย แต่ทำไมทำผิดเสียเอง” มารดาของผู้ตาย ระบุ
อย่างไรก็ตาม หลังจากแพทย์โรงพยาบาลสงขลาได้ทำบาดแผลและผ่าหัวกระสุนปืนออกแล้ว ทางญาติๆ ได้นำรถยนต์กระบะมาขอรับศพกลับภูมิลำเนาในพื้นที่ อ.ระโนด จ.สงขลา เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
