สตูล - เลขาธิการสภากาชาดไทยเผย ยังมีผู้ป่วยที่รอรับการบริจาคดวงตา และอวัยวะจากผู้มีจิตกุศลอีกเป็นจำนวนมาก พบปัญหาเมื่อผู้บริจาคเสียชีวิต ญาติมักจะไม่ยินยอม ส่วนโลหิตที่รับบริจาคแต่ละปีมีปริมาณเพียงพอต่อการช่วยเหลือผู้ป่วย
วันนี้ (16 ก.ค.) นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย กล่าวในโอกาสที่เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิด และบรรยายพิเศษในงานประชุมนายกเหล่ากาชาด กรรมการ สมาชิก เหล่ากาชาดจังหวัดในภาค 12 ประจำปี 2555 ณ โรงแรมพินนาเคิลวังใหม่ อ.เมือง จ.สตูล ในประเด็นเกี่ยวกับการรับบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะจากผู้มีจิตกุศล เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยว่า จำนวนโลหิตที่ทางสภากาชาดไทยได้รับบริจาคเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยจากทั่วประเทศในแต่ละปีนั้น ถือว่ามีปริมาณเพียงพอ แต่มักจะขาดแคลนในช่วงที่มีการปิดภาคเรียน หรือเทศกาลสำคัญๆ เช่นสงกรานต์ หรือปีใหม่
เนื่องจากมีอุบัติเหตุผู้บาดเจ็บมีจำนวนมาก จึงต้องนำโลหิตไปช่วยเหลือผู้ป่วยในส่วนนี้ ทั้งนี้ ทางสภากาชาดไทยได้เน้นประชาสัมพันธ์ เพื่อรณรงค์ให้กลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ที่มีอายุตั้งแต่ 18-25 ปี หันมาบริจาค และแนะนำคนใกล้ชิดให้มาร่วมบริจาคโลหิตมากขึ้น ซึ่งก็ได้ผลดี
สำหรับการบริจาคดวงตา และอวัยวะ รวมทั้งกระดูก และเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายนั้น ทางสภากาชาดไทย ยังคงเปิดรับบริจาคจากผู้มีจิตอันกุศลเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่รอรับการตรวจรักษาอีกเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม แม้จะมีประชาชนจำนวนมากที่ได้แจ้งความประสงค์เพื่อบริจาคดวงตา และอวัยวะกับทางสภากาชาดไทย กรณีที่ตนเองเสียชีวิตไปแล้วนั้น แต่เมื่อบุคคลดังกล่าวเสียชีวิตขึ้นมาจริงๆ ก็มักจะไม่สามารถนำเอาอวัยวะไปรักษาผู้ป่วยได้ เพราะทางญาติมักจะไม่ยินยอม ทำให้อวัยวะสำคัญๆ เช่น หัวใจ ดวงตา หรือเนื้อเยื่อต่างๆ ยังคงขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อการนำไปรักษาผู้ป่วยที่รอคิวรับการรักษา หรือถ่ายอวัยวะอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสภากาชาดไทยจึงได้เน้นการทำงานในเชิงรุกมากขึ้น โดยการไปพบปะเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจให้ญาติพี่น้องของผู้ที่จะบริจาคอวัยวะทราบว่า การบริจาคอวัยวะเป็นการสร้างกุศลทานอันยิ่งใหญ่ เพราะทำให้เกิดความสุขทั้งผู้ให้ และผู้รับ
