xs
xsm
sm
md
lg

สธ.เร่งขยายบริการผ่าตัดปลูกถ่ายไตไป รพ.ศูนย์ฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สธ.เร่งขยายบริการผ่าตัดปลูกถ่ายไตไป รพ.ศูนย์ฯ สร้างเครือข่ายรับบริจาคอวัยวะจากผู้ป่วยบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุ และอยู่ในภาวะสมองตาย ซึ่งแต่ละปีมีประมาณ 13,000 คน พร้อมเชิญชวนคนไทยแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ

วันนี้ (7 มี.ค.) นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.และ นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานของศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะสภากาชาดไทย สาขา รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งขณะนี้สามารถผ่าตัดเปลี่ยนไตจากผู้ที่มีภาวะสมองตาย เป็นแห่งแรกของโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขที่อยู่ในต่างจังหวัด

นายวิทยา กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่า คนไทยมีปัญหาอวัยวะภายในร่างกายเสื่อมสภาพมากขึ้น เช่น ไตวายเรื้อรัง ตับวาย หัวใจวาย โรคปอดระยะสุดท้าย สาเหตุเกิดมาจากป่วยเป็นโรคเรื้อรังมากขึ้นที่พบมาก คือ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคปอด โรคตับ มีผู้ป่วยประมาณปีละกว่า 1 ล้านคน โดยมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นโรค เป็นภัยเงียบที่กระทรวงสาธารณสุขเร่งรณรงค์ค้นหา ป้องกันและแก้ไข

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในผู้ป่วยที่มีปัญหาอวัยวะเสื่อมหน้าที่แล้ว มีนโยบายเร่งพัฒนาให้โรงพยาบาลศูนย์ทุกแห่ง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ของกระทรวงสาธารณสุขที่มี 33 แห่งทั่วประเทศ และตั้งอยู่ในต่างจังหวัด มีแพทย์ และเครื่องมือพร้อม ให้เป็นศูนย์ผ่าตัดเพื่อปลูกถ่ายอวัยวะ (Organ Transplant Center) เนื่องจากที่ผ่านมาบริการปลูกถ่ายอวัยวะส่วนใหญ่ จะทำในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานคร และในโรงเรียนแพทย์เท่านั้น ทำให้ผู้ป่วยต้องเข้าคิวรอยาว โดยจะเริ่มที่การผ่าตัดปลูกถ่ายไตก่อน เนื่องจากขณะนี้มีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย ที่ต้องฟอกไตยืดชีวิต และขึ้นทะเบียนรอการผ่าตัดปลูกถ่ายไตจำนวนมากกว่า 30,000 ราย แต่มีผู้ป่วยที่โชคดีได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนไตเพียงปีละ 200-300 รายเท่านั้น ขณะนี้โรงพยาบาลในต่างจังหวัดที่อยู่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถให้บริการผ่าตัดปลูกถ่ายไตได้แล้ว อาทิ รพ.ขอนแก่น รพ.สรรพสิทธิประสงค์ อุบลราชธานี รพ.ชลบุรี รพ.พุทธชินราช พิษณุโลก และ รพ.สุราษฎร์ธานี เป็นต้น

ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ.กล่าวว่า ในการพัฒนาระบบความพร้อมการเปิดให้บริการปลูกถ่ายไตแก่ประชาชนที่ขึ้นคิวรอรักษาผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะในโรงพยาบาลศูนย์ 33 แห่ง กระทรวงสาธารณสุขได้ให้โรงพยาบาลศูนย์ และโรงพยาบาลทั่วไปในสังกัดทั่วประเทศที่มี 94 แห่ง เป็นศูนย์เครือข่ายรับบริจาคอวัยวะจากผู้ป่วยที่บาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางถนนและอยู่ในภาวะสมองตายแล้ว ซึ่งมีผู้ป่วยประเภทนี้ปีละประมาณ 13,000 ราย เพื่อให้ประชาชนในต่างจังหวัดเข้าถึงบริการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยจะขอบริจาคจากญาติโดยความสมัครใจ เพื่อเป็นการสร้างกุศลให้ผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งผู้บริจาค 1 คนสามารถช่วยชุบชีวิตใหม่ให้ผู้ป่วยได้เกือบ 10 คน คือ ช่วยผู้ป่วยโรคไตวาย 2 คน หัวใจวาย 1 คน ตับวาย 1 คน ผู้ป่วยตาบอด 2 คน ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว ผู้ป่วยโลหิตจางธาลัสซีเมียรุนแรง

ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยในช่วง 18 ปี ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2537-31 มกราคม 2555 มีประชาชนแสดงความจำนงขอบริจาคอวัยวะ จำนวน 627,594 คน แต่มีผู้ได้บริจาคอวัยวะหลังเสียชีวิตแล้ว (Deceased Donor) รวม 1,182 ราย มีผู้ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ 2,753 ราย และมีอวัยวะที่ได้รับการปลูกถ่าย 5,202 อวัยวะ มากที่สุด คือ ไต 2,125 ราย รองลงมา ลิ้นหัวใจ 1,259 ราย ดวงตา 1,133 ราย ตับ 457 ราย หัวใจ 96 ราย กระดูก 47 ราย หัวใจ-ปอด 35 ราย เป็นต้น เฉพาะปี 2554 มีจำนวนผู้บริจาคอวัยวะ 113 ราย นำไปปลูกถ่ายอวัยวะให้ผู้ป่วยได้ 276 ราย

นพ.มนัส กนกศิลป์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ กล่าวว่า โรงพยาบาลฯได้รับการรับรองจากสภากาชาดไทยให้เป็นศูนย์รับบริจาคอวัยวะ มานาน 10 ปี ตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ.2552 - กุมภาพันธ์ 2555 มีประชาชนทั่วไปแสดงความจำนงขอบริจาคอวัยวะ 2,448 ราย ส่วนใหญ่บริจาคดวงตา 2,250 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากภาวะสมองตายบริจาคอวัยวะให้สภากาชาดไทยผ่านโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ 179 ราย ประกอบด้วย ไต 332 ไต ตับ 68 ตับ ลิ้นหัวใจ 196 ลิ้น ดวงตา 129 ดวง และปอด 5 ปอด

สำหรับการบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง ขณะนี้มีศูนย์ไตเทียมทั้งหมด 3 ศูนย์ มีเครื่องไตเทียม 54 เครื่อง ผู้ป่วยฟอกเลือด จำนวน 268 ราย เฉลี่ยวันละ 170 ราย ผู้ป่วยล้างไตทางช่องท้อง 395 ราย มีผู้ป่วยรอรับการปลูกถ่ายไต 43 ราย ขณะนี้มีผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไต 27 ราย โดยเป็นไตที่ได้รับบริจาคจากผู้ป่วยอุบัติเหตุสมองตาย จำนวน 8 ราย นับเป็นโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงฯ แห่งแรกที่สามารถทำการปลูกถ่ายไตจากผู้บริจาคสมองตายได้สำเร็จ เมื่อปี 2551 ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะอื่น เช่น ปลูกถ่ายไขกระดูก
กำลังโหลดความคิดเห็น