ระนอง - ทหารไทยรอเก้อขณะเตรียมเดินทางเข้าเกาะสอง ประเทศพม่า หลังมีการนัดหมายเพื่อเจรจาปล่อยตัว 49 คนไทยที่ถูกทหารพม่าควบคุมตัว ก่อนเดินทาง ทางการพม่าประสานกลับมาใหม่ยังไม่พร้อมที่จะเปิดการเจรจา จะทำการนัดหมายไปอีกครั้ง
จากกรณีทหารพม่าควบคุมตัวคนไทยจำนวน 49 คนที่เข้าไปบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อปลูกยางพารา และมีอีกจำนวนมากที่ยังคงหลบหนี วันนี้ (9 ก.ค.) พ.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี ได้รับการประสานจากทางการพม่าว่า เวลา 10.30 น. ให้นำคณะผู้เจรจาเดินทางไปยังจังหวัดเกาะสอง ประเทศพม่า เพื่อเจรจากับ พ.อ.โซอ่าว ผู้บังคับหน่วยยุทธศาสตร์ที่ 2 จึงเตรียมพร้อมคณะที่จะเดินทาง
แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายที่จะออกเดินทางไปยังจังหวัดเกาะสอง ทางการพม่าได้ประสานงานกลับมาว่าวันนี้ยังไม่พร้อมที่จะทำการเจรจาใดๆ ให้เลื่อนไปก่อน โดยอาจจะไปทำการเจรจาที่บริเวณแนวชายแดนบ้านอินทนินขวาง ประเทศพม่า ที่อยู่ด้านตรงข้ามกับคลองกระนัย บ้านในกรัง ม.9 ตำบล จปร. อ.กระบุรี จ.ระนอง แทน แต่ยังไม่ระบุเวลาที่แน่ชัด
พ.อ.พรศักดิ์กล่าวว่า ทางการไทยพร้อมที่จะเข้าเจรจากับทางการพม่าอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้การปล่อยตัวคนไทยทั้ง 49 คนที่ถูกทหารพม่าควบคุมตัวและคนไทยอีกจำนวนหนึ่งที่ยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่พม่าได้กลับข้ามมายังฝั่งไทยโดยปลอดภัย และเรื่องที่ทางการพม่ายังคงล่าช้าส่วนหนึ่งอาจจะมาจากสาเหตุที่ทางการพม่ายังเข้าตรวจสอบพื้นที่จำนวนกว่า 4,000 ไร่ที่ถูกบุกรุกยังไม่เรียบร้อย อีกทั้งการเข้าตรวจสอบหรือการเข้าจัดระเบียบชายแดนของทางการพม่าในครั้งนี้พบทั้งอาวุธสงครามและยาเสพติดคือกัญชาปลูกในพื้นที่พม่าเป็นจำนวนมาก จึงต้องมีการแยกแยะว่าใครกลุ่มไหนเป็นเจ้าของสวนหรือไร่กัญชา กลุ่มไหนเป็นกลุ่มที่มีอาวุธสงครามเป็นจำนวนมาก การตรวจสอบพื้นที่ยังคงมีต่อ เนื่องจากพื้นที่กว้างมาก ทางการพม่าจึงตรวจสอบอย่างละเอียด ส่งผลให้การเจรจาอาจจะล่าช้าไปบ้าง เราจะทำการติดต่อประสานงานกับทางการพม่าอยู่ตลอด หากทางการพม่าพร้อมเมื่อไหร่ก็สามารถเจรจาได้ทันที เนื่องจากทางการไทยพร้อม 24 ชั่วโมงเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยให้ได้เดินทางกลับบ้าน
ขณะที่เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.วันนี้ ( 9 ก.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าได้ช่วยเหลือคนไทยจำนวน 3 คนที่เดินทางหลบหนีออกมาจากประเทศพม่า เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปรับตัว ซึ่งทั้ง 3 คนอยู่ในสภาพที่อิดโรย สอบถามทราบชื่อคือนายสมบัติ เพชรรัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 252 ม.7 ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร นายณรงค์ จันทร์พิบูรณ์ อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.7 ต.สองพี่น้อง และนายน้อย ภุมรินทร์ อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.1 ต.สองพี่น้อง
โดยนายสมบัติเล่าให้ฟังว่ามีนายทุนมาจ้างพวกตนทั้งหมดจำนวน 9 คน ให้ไปทำการขุดดินปลูกต้นยางพารา ได้ค่าปลูกต้นละ 40 บาท เดินทางเข้าไปเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 55 โดยไม่ทราบว่าเป็นพื้นที่ของประเทศพม่า โดยเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 4 หลังจากร่วมกันปลูกยางได้จำนวนร้อยกว่าต้นจึงพักกินข้าว ขณะนั่งกินข้าวอยู่ในกลุ่มได้ยินเสียงปืน และเห็นทหารพม่าแต่งกายด้วยทหารชุดสีดำพร้อมอาวุธครบมือจำนวนนับร้อยคนเดินเข้ามา พวกตนเห็นอย่างนั้นจึงต่างคนต่างวิ่งหนีเอาชีวิตรอด พลัดหลงไปคนละทาง ไม่รู้ว่าพวกที่เหลือโดนจับหรือไม่ โดยตลอดระยะเวลาที่หลบหนีต้องเก็บกล้วยป่า ใบไม้ หน่อไม้ และทุกๆ อย่างที่กินได้เพื่อประทังชีวิต จนสามารถข้ามมายังฝั่งไทยได้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พยาบาลได้ช่วยกันทำบาดแผลที่ถูกทากกัด ต้นไม้เกี่ยวเป็นการเบื้องต้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปสอบถามประวัติอย่างละเอียดอีกครั้ง