ระนอง - เผยคนไทยที่หลบหนีการจับกุมของทหารพม่ากลับไทยได้แล้วกว่า 40 คน ระบุการดำเนินการของพม่าทำเพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของพื้นที่ และผลักดันผู้บุกรุกเท่านั้น
พ.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี แถลงข่าวข้อมูลราษฎรไทยถูกจับตัวที่พม่าว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมามีราษฎรไทยส่วนหนึ่งที่หลบหนีการจับกุมของทหารพม่าออกมาจากฝั่งพม่าได้แล้วจำนวน 49 คน เป็นชาย 41 หญิง 8 คน และญาติได้มารับกลับภูมิลำเนาแล้ว
“ซึ่งท่าทีของทหารพม่าที่เข้ามาดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปในลักษณะเข้ามาทำการตรวจสอบพื้นที่เพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของพื้นที่ และทำการผลักดันราษฎรไทยให้กลับเข้าประเทศไทย ถึงแม้นจะพบการกระทำความผิดกฎหมายทั้งอาวุธสงครามและยาเสพติดจำนวนมาก แต่ทางทหารพม่าก็ทำตามหลักสิทธิมนุษยชน”
นอกจากนั้น พ.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี พร้อมด้วยนายธนิต กุลสุนทร นายอำเภอกระบุรี และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอกระบุรี ยังได้แถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ปัจจุบันทราบว่ากลุ่มคนไทยที่เข้าไปมีจำนวน 3 กลุ่ม ทั้งราษฎรในพื้นที่และจากต่างจังหวัด รวมประมาณ 150 ครอบครัว มีพื้นที่ถูกบุกรุกเป็นจำนวนมาก โดยลึกเข้าไปในฝั่งพม่าประมาณ 9 กม. และทางการพม่าได้เคยทำหนังสือประท้วงเรื่องที่ประชาชนคนไทยบุกรุกเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าในฝั่งพม่าแล้ว
และจากข้อมูลของทางทหารพม่าประสานกับทหารไทยเฝ้าติดตามสถานการณ์และทราบจากราษฎรไทยในพื้นที่ว่าในพื้นที่ที่ราษฎรคนไทยบุกรุกเข้าไปนั้นส่วนหนึ่งได้ลักลอบปลูกกัญชาและได้นำกองกำลังพร้อมอาวุธสงครามติดตัวเข้าไปด้วยจากการบอกเล่าของล่าม ทราบว่า พ.อ.โซอ่าว ผบ.ยุทธศาสตร์ที่ 2 ประเทศพม่า รับปากว่าจะสำรวจพื้นที่ทั้งหมดที่ถูกคนไทยบุกรุก และคนไทยที่ถูกทหารพม่าจับกุมว่ามีจำนวนเท่าไร ให้เสร็จสิ้นแล้วจะปล่อยตัวคนไทยทั้งหมดกลับสู่ประเทศด้วยความปลอดภัย และขอยืนยันว่าทหารพม่าไม่ได้ทำร้ายคนไทยแต่อย่างใด
พ.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี แถลงข่าวข้อมูลราษฎรไทยถูกจับตัวที่พม่าว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมามีราษฎรไทยส่วนหนึ่งที่หลบหนีการจับกุมของทหารพม่าออกมาจากฝั่งพม่าได้แล้วจำนวน 49 คน เป็นชาย 41 หญิง 8 คน และญาติได้มารับกลับภูมิลำเนาแล้ว
“ซึ่งท่าทีของทหารพม่าที่เข้ามาดำเนินการในครั้งนี้เป็นไปในลักษณะเข้ามาทำการตรวจสอบพื้นที่เพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของพื้นที่ และทำการผลักดันราษฎรไทยให้กลับเข้าประเทศไทย ถึงแม้นจะพบการกระทำความผิดกฎหมายทั้งอาวุธสงครามและยาเสพติดจำนวนมาก แต่ทางทหารพม่าก็ทำตามหลักสิทธิมนุษยชน”
นอกจากนั้น พ.อ.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กองกำลังเทพสตรี พร้อมด้วยนายธนิต กุลสุนทร นายอำเภอกระบุรี และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอกระบุรี ยังได้แถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ปัจจุบันทราบว่ากลุ่มคนไทยที่เข้าไปมีจำนวน 3 กลุ่ม ทั้งราษฎรในพื้นที่และจากต่างจังหวัด รวมประมาณ 150 ครอบครัว มีพื้นที่ถูกบุกรุกเป็นจำนวนมาก โดยลึกเข้าไปในฝั่งพม่าประมาณ 9 กม. และทางการพม่าได้เคยทำหนังสือประท้วงเรื่องที่ประชาชนคนไทยบุกรุกเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าในฝั่งพม่าแล้ว
และจากข้อมูลของทางทหารพม่าประสานกับทหารไทยเฝ้าติดตามสถานการณ์และทราบจากราษฎรไทยในพื้นที่ว่าในพื้นที่ที่ราษฎรคนไทยบุกรุกเข้าไปนั้นส่วนหนึ่งได้ลักลอบปลูกกัญชาและได้นำกองกำลังพร้อมอาวุธสงครามติดตัวเข้าไปด้วยจากการบอกเล่าของล่าม ทราบว่า พ.อ.โซอ่าว ผบ.ยุทธศาสตร์ที่ 2 ประเทศพม่า รับปากว่าจะสำรวจพื้นที่ทั้งหมดที่ถูกคนไทยบุกรุก และคนไทยที่ถูกทหารพม่าจับกุมว่ามีจำนวนเท่าไร ให้เสร็จสิ้นแล้วจะปล่อยตัวคนไทยทั้งหมดกลับสู่ประเทศด้วยความปลอดภัย และขอยืนยันว่าทหารพม่าไม่ได้ทำร้ายคนไทยแต่อย่างใด
