หลังแจ้งเกิดการเป็นดีไซเนอร์เลือดใหม่จากเวที “RMUTSV FASHION SHOWCASE 2012” ซึ่งนำแสดงผลงานผ้าทอเกาะยอ นำโดยนางแบบดัง “โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร” ชื่อ "น้องปุ๊ก-สิริมา สัตยาธาร" นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ได้รับการชื่นชม และคำแนะนำเพื่อนำมาพัฒนาตนเองอย่างล้นหลาม
และพลาดไม่ได้เมื่อ “ASTVผู้จัดการภาคใต้” นัดคุยกับ "น้องปุ๊ก" และ "อาจารย์โอ๋-นวัทตกร อุมาศิลป์" หัวหน้าหลักสูตรสาขาวิชาออกแบบแฟชั่นและสิ่งทอ ซึ่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จที่ได้เพาะบ่มได้นักศึกษารุ่นแรกในสาขานี้ดังที่ปรากฎ
เบื้องหลังของการนำผลงานนักศึกษาเปิดกว้างต่อสาธารณะชนมากขึ้น ทำให้งานแสดงแฟชั่นโชว์ครั้งนั้นได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ล้นหลาม เบื้องหลังเป็นอย่างไร
อ.นวัทตกร : หลักสูตรนี้เป็นรุ่นแรกเปิดเมื่อปี 2551 ส่วนสิริมาเป็นนักศึกษารุ่นแรกที่เรียนจบ โดยมีการเรียนแฟชั่นนิพนธ์ก่อนจบ ด้วยโจทย์ที่ว่าต้องออกแบบสร้างสรรค์จากภูมิปัญญาหรือเรื่องราวของท้องถิ่นเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งเป็นโจทย์ตลอดหลักสูตร ไม่เฉพาะนักศึกษารุ่นแรกที่จะต้องคิดแก้ปัญหาท้องถิ่น โดยของเขาได้เข้ามาแก้ปัญหาผ้าทอเกาะยอ และแต่ละรุ่นก็จะมีปัญหาที่จะแตกต่างกันออกไป
ก่อนที่จะหยิบปัญหาผ้าทอเกาะยอที่เป็นเอกลักษณ์ของ จ.สงขลา ขึ้นมาแก้ปัญหา มีแรงบันดาลใจอย่างไร
น.ส.สิริมา : ปุ๊กเองเป็นคนสงขลาโดยกำเนิด คนที่นี่และที่อื่นรู้จักผ้าทอเกาะยอมานานแล้ว ด้วยความความสวยที่เป็นเอกลักษณ์ แต่คนที่หยิบมาใช้น้อย ส่วนมากเป็นคนสูงวัย หรือหน่วยงานราชการ ใส่แล้วดูมีอายุ แต่ถ้าเราสามารถเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น 20 ต้นๆ จะได้ไหม และนำมาปรับการดีไซน์ให้เข้ากับเทรนด์ในขณะนี้ ซึ่งนิยมแบบซัมเมอร์ สบายๆ ใส่พอดีตัว เสื้อแขนกุด กระโปรง กางเกงสั้น โดยใส่ดีเทลเล่นรูปแบบทรงเลขาคณิตที่มีความท้าทายด้านการตัดเย็บที่จะทำให้เป็นมิติ เป็นเหลี่ยม
เมื่อน้องได้หยิบยกปัญหาตรงนี้มาแก้ไข ในส่วนของอาจารย์นั้นได้มีการแนะนำอะไรเพิ่มเติมบ้าง
อ.นวัทตกร : รูปทรงเรขาคณิตนั้นเป็นแรงบันดาลใจที่น้องเขาจะนำมาแก้ปัญหาผ้าทอเกาะยอให้มีมูลค่ามากขึ้น ซึ่งในส่วนของอาจารย์จะช่วยสรุปในส่วนของการนำเทรนด์มาใช้ ว่าเทรนด์ของปี 2012 มีลักษณะ สีอย่างไร โดยการทำวิจัยและนำมาดูว่าเหมาะกับผ้าทอเกาะยอที่เขาสนใจหรือไม่ ต้องแก้อย่างไร พยายามที่จะเอาตัวตนออกมาจากเขา โดยไม่ถูกจำกัด สิ่งที่ออกแบบมาถูกต้อง แค่ดูว่าเหมาะสมหรือเปล่า และพยายามถามตัวเขาว่าเขาต้องการอย่างนี้จริงๆ ใช่หรือไม่
กว่าที่จะเห็นแฟชั่น 12 ชุด ถือเป็นต้นแบบของการดีไซน์ที่เจาะกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงานตอนต้นได้ ต้องใช้ต้นทุนและเวลาค่อนข้างนาน
สิริมา : ใช่ค่ะ ทุกขั้นตอนถือว่าใช้เวลา และมีความท้าทายเหมือนกันหมด ตั้งแต่ขึ้นปี 4 ก็เริ่มที่จะตอบโจทย์ของวิทยานิพนธ์ ทำการวิจัยลงพื้นที่เพื่อหาคำตอบว่าสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการคืออะไร เขาอยากได้ผ้าที่ใส่แล้วเบาสบาย ไม่ร้อน เช่นผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์ จึงต้องลงไปดูการผลิตผ้าเกาะยอซึ่งมีเพียงกลุ่มเดียวที่ตอบโจทย์นี้ได้ คือกลุ่มเกษตรกรทอผ้าเกาะยอ แต่ก็เจอปัญหาที่ว่าทางกลุ่มนั้นปฎิเสธที่จะปรับเปลี่ยนลาย เพราะต้องการอนุรักษ์แบบเดิมไว้ ทำให้ต้องหาวิธีนำผ้ามาทำเป็นชิ้นงานให้ได้ภายใต้ข้อจำกัด
ปัญหาใหญ่คือกลุ่มทอผ้าจะสั่งเส้นใยมาจากกรุงเทพฯ เพื่อทอเป็นผ้า ไม่ได้ผลิตเส้นใยเอง และถ้าเส้นใยชุดนี้หมดก็จะหมดเลย คราวนี้ปัญหามีอยู่ว่ากลุ่มที่ไปดูนั้นมีผ้าไม่พอ เช่น ชุดที่กำลังจะตัดสีนี้มีผ้าอยู่แค่ 7 หลา ทั้งที่เราต้องการ 12 หลา จะทำอย่างไรดี ก็ต้องไปหาที่กลุ่มอื่นๆ ให้มีความใกล้เคียงกันมากที่สุด
ส่วนในเรื่องการตัดเย็บนั้นก็ต้องเรียนรู้เทคนิคเช่นเดียวกัน เพราะบางครั้งทำออกมาแล้วมันไม่มีมิติ ซึ่งก็จะมีอาจารย์คอยแนะนำว่าแบบไหนควรจะทำอย่างไร ซึ่งต้นทุนแต่ละชุดค่อนข้างสูงหลายพันบาท เพราะว่าเป็นต้นแบบด้วย แม้ว่าบางอย่างจะทำเอง แต่บางอย่าง เช่น การเย็บก็ต้องมีการจ้างด้วย เพื่อให้ทันกับเวลา และนำผลงานไปแสดงอย่างที่เห็น แต่หากนำไปทำในเชิงธุรกิจมีการตัดเย็บเป็นจำนวนมาก และปัญหาจากต้นน้ำเรื่องผ้าได้รับการแก้ไข ก็จะสามารถลดต้นทุนแต่ละชุดลงไปได้เช่นกันค่ะ
งานที่ออกมาในวันแสดงแฟชั่นโชว์ได้รับคำชื่นชมในการเตรียมผลงาน ร่วมกับการพรีเซ็นของเหล่านางแบบดัง ซึ่งเป็นการประสานงานของอาจารย์ใช่ไหมคะ
อ.นวัทตกร : คือนอกจากการผลิตงานออกมาดีแล้ว การแสดงผลงานด้านแฟชั่นก็ต้องมีไม้แขวน คือนางแบบที่ดีด้วย ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องอาศัยนางแบบมืออาชีพเข้ามาร่วมงาน ซึ่งได้คุณโย ยศวดี หัสดีวิจิตร
และในปีต่อๆ ไปจะมีการเตรียมงานที่ดีขึ้นและใหญ่ขึ้นกว่านี้ เพื่อแสดงศักยภาพของนักศึกษา ซึ่งในสาขาที่เปิดสอนนั้นเป็นแห่งแรกและที่เดียวของภาคใต้ โดยจะมีการสอนนักศึกษาให้คิดและปฎิบัติงานได้อย่างครบวงจรในด้านแฟชั่น ไม่ใช่เฉพาะการออกแบบ แต่รวมถึงการตัดเย็บ การแต่งหน้า และอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาได้มีความรู้ในวงการนี้รอบด้าน และสามารถนำไปใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะประกอบอาชีพส่วนตัว หรือร่วมงานกับดีไซเนอร์แบรนด์อื่นๆ ร่วมด้วยประสบการณ์การฝึกงานที่จะส่งนักศึกษาไปกรุงเทพฯ ทั้งหมด
รู้สึกอย่างไรบ้างกับผลงานของนักศึกษารุ่นแรกที่จบออกมาแล้ว
อ.นวัทตกร : หลังจากที่ผ่านการเคี่ยวกรำมาจนกระทั่งถึงวันที่แสดงแฟชั่นโชว์ โดยได้นางแบบชั้นนำมาร่วมนำเสนอนั้น ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีทั้งนักศึกษาและอาจารย์ ก็รู้สึกภูมิใจนะที่สามารถเพิ่มมูลค่าของผ้าทอเกาะยอได้ แต่ผลงานในครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายน้ำ คือเรื่องของการสร้างแบบเสื้อผ้า และการตัดเย็บที่ได้ในกลุ่มของวัยรุ่น วัยทำงานต้นๆ ปัญหาต้นน้ำคือการผลิตผ้านั้นยังมีอยู่
เพราะจากการทำวิจัยของนักศึกษาก็พบว่าทางกลุ่มผู้ทอผ้านั้นไม่ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย ซึ่งเป็นปัญหาในด้านทัศนคติ ทำให้เสียโอกาสที่จะนำผ้าทอเกาะยอไปประยุกต์ใช้กับแฟชั่นได้ เช่น การใช้เส้นใยผ้าที่ต้องบางเบาขึ้น เพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน หรือการปรับปรุงเลือกโทนสีให้เหมาะกับเทรนด์ในช่วงนั้นๆ เพื่อให้ดีไซเนอร์สามารถหยิบจับมาสร้างงานเพิ่มมูลค่าได้ง่ายขึ้น
สุดท้ายนี้ ในส่วนของน้องปุ๊กวางเป้าหมายนับจากนี้อย่างไรบ้าง
สิริมา : ก็อยากหาประสบการณ์ในวงการ อยากร่วมงานเบื้องหลังกับมืออาชีพ เพื่อหาประสบการณ์ทำงานจริงๆ ซึ่งบางอย่างนั้นไม่ได้ทำก็จะไม่เจอปัญหาและเทคนิคการแก้ไข และเร็วๆ นี้ก็เตรียมศึกษาต่อด้านนี้ค่ะ เตรียมตัวที่จะต่อในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะหยิบเอาเรื่องราวของท้องถิ่นมาพัฒนาให้เป็นสากล และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น เพราะแฟชั่นไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
"เมื่อก่อนเราอาจจะมองว่า เสื้อผ้าที่ดีไซเนอร์สร้างมานั้น เหมาะกับนางแบบแคทวอร์กและเมืองนอกเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ งานที่ออกมาทุกคนสามารถนำมาใช้กับตัวเองได้ ไม่เฉพาะว่าจะต้องเป็นคนที่หุ่นดีเท่านั้นจึงจะใส่เสื้อผ้าตามแฟชั่นได้ แต่คนที่รูปร่างอวบหรืออ้วนก็สามารถมีเสื้อผ้าที่เหมาะ ดูดี และสวยได้เช่นเดียวกัน" น้องปุ๊กกล่าวทิ้งท้าย