หนองคาย - ศุลกากรหนองคาย รวบชายหญิงไทย-ลาว นำผ้าถุงเคลือบฝิ่น พร้อมฝิ่นดิบรีดเป็นแผ่นซ่อนในที่รองจาน นำข้ามแม่น้ำโขง สารภาพรับจ้างนำส่งลูกค้าที่อุดรธานี
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมืองหนองคาย นายบุญรักษ์ ขินาวงศ์ เจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย พร้อมด้วย ร.ต.ท.คพัชร คงสูงเนิน รองสว.สส.ภง.จว.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้ร่วมกันจับกุม นางสี เหอ อายุ 49 ปี ชาวบ้านหนองเงี้ยว เมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และ นายจุลดิศ จันทะนุย อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/1 หมู่ 1 ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย
พร้อมของกลางฝิ่นดิบรีดเป็นแผ่น 14 แผ่น น้ำหนัก 2,230 กรัม ซ่อนในแผ่นรองจานสาน และผ้าถุงผ้าฝ้ายเคลือบด้วยฝิ่น 28 ผืน น้ำหนัก 7 กก.รถยนต์เก๋ง โตโยต้า โคโรน่า สีแดง ทะเบียน กข 2667 หนองคาย โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้เรียกรถยนต์คันดังกล่าวที่ขับข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ฝั่งประเทศลาว เข้ามาตรวจสอบ พบภายในกระโปรงหลัง มีห่อผ้าฝ้ายผ้าถุง และที่รองจานวางอยู่จำนวนมาก โดยไม่ได้แจ้งนำสินค้าเข้าประเทศ และผ้าถุงทั้งหมดมีน้ำหนักมากผิดปกติ
จึงตัดชิ้นส่วนผ้าถุงไปตรวจสอบด้วยน้ำยาสำหรับตรวจสารเสพติด พบว่า มีการเคลือบฝิ่นดิบไว้บนผืนผ้าถุงดังกล่าว ส่วนแผ่นรองจานมีฝิ่นดิบรีดเป็นแผ่นบางๆ ห่อด้วยกระดาษก๊อบปี้ยัดอยู่ภายใน
จากการสอบสวน นางสี เหอ สารภาพว่า ตนเป็นชาวม้งลาว และมีชาวม้งลาวด้วยกันนำของกลางทั้งหมดมาที่บ้าน บอกให้ตนนำข้ามประเทศมาส่งให้กับชายคนหนึ่งที่จะมารอรับที่ตลาดผ้านาข่า อ.เมืองอุดรธานี แล้วจะได้ค่าจ้าง 5,000 บาท ตนจึงให้ นายจุลดิศ ไปรับ แล้วพาข้ามประเทศนำมาส่ง แต่ถูกจับกุมได้เสียก่อน
เจ้าหน้าที่คาดว่า ฝิ่นที่เคลือบมาในผ้าถุง หากนำไปต้ม หรือสกัดเอาฝิ่นที่เคลือบอยู่ออกมา จะได้ฝิ่นปริมาณ 2-3 กก.จากนั้นจึงควบคุมตัวทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคายดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมืองหนองคาย นายบุญรักษ์ ขินาวงศ์ เจ้าหน้าที่ศุลกากรหนองคาย พร้อมด้วย ร.ต.ท.คพัชร คงสูงเนิน รองสว.สส.ภง.จว.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้ร่วมกันจับกุม นางสี เหอ อายุ 49 ปี ชาวบ้านหนองเงี้ยว เมืองสีโคดตะบอง นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว และ นายจุลดิศ จันทะนุย อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/1 หมู่ 1 ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย
พร้อมของกลางฝิ่นดิบรีดเป็นแผ่น 14 แผ่น น้ำหนัก 2,230 กรัม ซ่อนในแผ่นรองจานสาน และผ้าถุงผ้าฝ้ายเคลือบด้วยฝิ่น 28 ผืน น้ำหนัก 7 กก.รถยนต์เก๋ง โตโยต้า โคโรน่า สีแดง ทะเบียน กข 2667 หนองคาย โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้เรียกรถยนต์คันดังกล่าวที่ขับข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ฝั่งประเทศลาว เข้ามาตรวจสอบ พบภายในกระโปรงหลัง มีห่อผ้าฝ้ายผ้าถุง และที่รองจานวางอยู่จำนวนมาก โดยไม่ได้แจ้งนำสินค้าเข้าประเทศ และผ้าถุงทั้งหมดมีน้ำหนักมากผิดปกติ
จึงตัดชิ้นส่วนผ้าถุงไปตรวจสอบด้วยน้ำยาสำหรับตรวจสารเสพติด พบว่า มีการเคลือบฝิ่นดิบไว้บนผืนผ้าถุงดังกล่าว ส่วนแผ่นรองจานมีฝิ่นดิบรีดเป็นแผ่นบางๆ ห่อด้วยกระดาษก๊อบปี้ยัดอยู่ภายใน
จากการสอบสวน นางสี เหอ สารภาพว่า ตนเป็นชาวม้งลาว และมีชาวม้งลาวด้วยกันนำของกลางทั้งหมดมาที่บ้าน บอกให้ตนนำข้ามประเทศมาส่งให้กับชายคนหนึ่งที่จะมารอรับที่ตลาดผ้านาข่า อ.เมืองอุดรธานี แล้วจะได้ค่าจ้าง 5,000 บาท ตนจึงให้ นายจุลดิศ ไปรับ แล้วพาข้ามประเทศนำมาส่ง แต่ถูกจับกุมได้เสียก่อน
เจ้าหน้าที่คาดว่า ฝิ่นที่เคลือบมาในผ้าถุง หากนำไปต้ม หรือสกัดเอาฝิ่นที่เคลือบอยู่ออกมา จะได้ฝิ่นปริมาณ 2-3 กก.จากนั้นจึงควบคุมตัวทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคายดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป